Search
Close this search box.
Search

เสริมจมูก OPEN ไร้ซิลิโคน

หนึ่งในเทคนิคที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน คือการเสริมจมูกแบบ Open Rhinoplasty (ไม่ใช้ซิลิโคน) ช่วยลดความเสี่ยงซิลิโคนทะลุได้ในอนาคต สามารถปรับและแก้ไขโครงสร้างภายในจมูกได้ตรงจุด เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาจมูกสั้น, ปีกจมูกกว้าง, เนื้อจมูกน้อย หรือคนที่เคยทำจมูกมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ เพราะจมูกถือว่าเป็นอวัยวะที่โดนเด่น หากใครที่มีจมูกสวย โด่งได้รูป รับกับใบหน้า ก็จะส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมดูมีมิติ และช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เจ้าของใบหน้าเป็นอย่างมาก

เลือกเนื้อหาที่สนใจได้เลย

เสริมจมูก OPEN หรือ แบบเปิด คืออะไร

การเสริมจมูกแบบเปิด เรียกว่า Open Rhinoplasty คือการผ่าตัดเสริมจมูก ที่ลงแผลที่ด้านล่างของจมูก (ขา/เสาจมูก Columella) เพื่อเปิดให้เห็นโครงสร้างจมูกด้านในได้อย่างชัดเจน จึงสามารถปรับ ตัดแต่ง แก้ไข โครงสร้างภายในของจมูกได้ทั้งหมด เพื่อแก้ไขความผิดปกติต่าง ๆ ได้ตรงจุด แก้ได้แทบจะทุกปัญหา ไม่ว่าจะเป็น สันจมูกคด, สันจมูกเป็นhumpเป็นคลื่นขนาดใหญ่,ฐานจมูกเอียง, จมูกงุ้ม, ปลายจมูกใหญ่, แก้ปลายจมูกบางจากการเสริมจมูกแบบปิด หรือจมูกที่ใกล้ทะลุ, ปลายจมูกสั้น, เนื้อปลายจมูกกุด เนื้อน้อย หรือในคนที่อาจจะมีปัญหาโครงสร้างไม่เยอะ แต่ชอบทรงให้จมูกที่พุ่งหรือโด่งมากประมาณนึง ซึ่งจะไม่สามารถเสริมจมูกโดยใช้ซิลิโคนเพียงอย่างเดียวได้ ก็สามารถเสริมจมูกด้วยเทคนิค Openแบบไม่ใช้ซิลิโคนได้

เสริมจมูกแบบเปิดหรือแบบ OPEN

โดยไม่ใช้ซิลิโคน คืออะไร

จุดเด่นของการ เสริมจมูก OPEN ไม่ใช่แค่การแก้ไขโครงสร้างภายในจมูก ยังสามารถทำให้จมูกพุ่งสวย โดยไม่ใช้ซิลิโคนที่ปลายจมูกได้อีกด้วย ข้อดีของการไม่ใช้ซิลิโคนที่ปลายจมูก คือ คนไทยส่วนใหญ่จะเนื้อน้อย จมูกมักจะทั้งสั้นและกุด การที่จะเสริมให้ได้ทรงที่สวย เรียกได้ว่าต้องฝืนเนื้อกันอย่างมาก ด้วยเหตุนี้การเสริมจมูกแบบเดิม ๆ ที่ใช้ซิลิโคนที่ปลายจมูก จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยว่าจะได้จมูกที่ทรงสวย พุ่งกำลังดี เพราะเนื้อจมูกคนไทยน้อยมาก หรือถ้าสามารถทำให้พุ่งได้ ปลายจมูกก็จะถูกซิลิโคนกดจนตึงและบาง ฝืนเนื้อ ทำให้มีความเสี่ยงที่ซิลิโคนจะทะลุอย่างมากในระยะยาว ดังนั้นการเสริมจมูก Open โดยไม่ใช้ซิลิโคนที่ปลายจมูก จึงเป็นข้อดีอย่างมาก นอกจากทรงจมูกที่ได้จะสวย พุ่ง รับหน้าแล้วยังได้ความปลอดภัยในระยะยาวด้วย ไม่ต้องมากังวลเรื่องปลายจมูกบาง หรือปลายจมูกทะลุจากซิลิโคน

อันนี้เป็นคำถามยอดฮิตของการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด เราจะแยกพิจารณาเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือปลายจมูก หรือประมาณ1ใน4-5ของปลายจมูก เราจะไม่ใช้ซิลิโคนเลยทั้ง100% ซึ่งต้องพูดว่าไม่ควรใช้ โดยเราจะนิยมใช้เนื้อเยื่อของตัวเอง (Autologous Graft) มาเสริมที่ปลายจมูก และนำมาเป็นโครงสร้างของจมูกที่จะเสริมใหม่ เนื้อเยื่อของตัวเองที่นิยมใช้จะนิยมใช้กระดูกอ่อนจากหู (Ear cartilage), กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก (Septal cartilage) กระดูกอ่อนซี่โครง (Costal cartilage) รวมไปถึงเนื้อเยื่อนิ่ม (Soft Tissue) จากบริเวณต่าง ๆ เช่น หลังหู เนื้อข้างกระดูกซี่โครง เป็นต้น ซึ่งการใช้เนื้อเยื่อตัวเองเหล่านี้ทั้งกระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อนิ่ม จะช่วยยืดจมูกให้ปลายพุ่งสวยได้มากกว่าและป้องกันการทะลุได้ดีเนื่องจากเป็นเนื้อเยื่อตัวเองไม่ใช่ซิลิโคน จึงเป็นเทคนิคที่เคลียร์ปัญหาได้อย่างตรงจุด ตอบโจทย์จมูกคนไทยที่มักจะมีปัญหาปลายจมูกทั้งสั้นและกุดได้เป็นอย่างดี

ส่วนที่สองคือสันจมูก หรือประมาณ4ใน5ด้านบนของจมูก ตรงนี้ถ้ามีสันสูงอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้ซิลิโคน สามารถใช้กระดูกอ่อนหรือเนื้อเยื่อนิ่มมาเติมที่สันจมูกได้ แต่พบว่าคนไทยส่วนใหญ่มากกว่า 80-90% สันจมูกจะค่อนข้างเตี้ยมาก ขาดเยอะมาก จึงกล่าวได้ว่าส่วนใหญ่ของคนไทยบริเวณสันจมูกมักจะต้องเสริมด้วยวัสดุอื่น เช่น ซิลิโคน กอร์เท็กซ์ (PTFE) เนื้อเยื่อสังเคราะห์ (ADM) เป็นต้น

เสริมจมูก OPEN ถ้าไม่ใช้ซิลิโคนแล้วใช้อะไรเสริม

อันนี้เป็นคำถามยอดฮิตของการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด เราจะแยกพิจารณาเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือปลายจมูก หรือประมาณ1ใน4-5ของปลายจมูก เราจะไม่ใช้ซิลิโคนเลยทั้ง100% ซึ่งต้องพูดว่าไม่ควรใช้ โดยเราจะนิยมใช้เนื้อเยื่อของตัวเอง (Autologous Graft) มาเสริมที่ปลายจมูก และนำมาเป็นโครงสร้างของจมูกที่จะเสริมใหม่ เนื้อเยื่อของตัวเองที่นิยมใช้จะนิยมใช้กระดูกอ่อนจากหู (Ear cartilage), กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก (Septal cartilage) กระดูกอ่อนซี่โครง (Costal cartilage) รวมไปถึงเนื้อเยื่อนิ่ม (Soft Tissue) จากบริเวณต่าง ๆ เช่น หลังหู เนื้อข้างกระดูกซี่โครง เป็นต้น ซึ่งการใช้เนื้อเยื่อตัวเองเหล่านี้ทั้งกระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อนิ่ม จะช่วยยืดจมูกให้ปลายพุ่งสวยได้มากกว่าและป้องกันการทะลุได้ดีเนื่องจากเป็นเนื้อเยื่อตัวเองไม่ใช่ซิลิโคน จึงเป็นเทคนิคที่เคลียร์ปัญหาได้อย่างตรงจุด ตอบโจทย์จมูกคนไทยที่มักจะมีปัญหาปลายจมูกทั้งสั้นและกุดได้เป็นอย่างดี

ส่วนที่สองคือสันจมูก หรือประมาณ4ใน5ด้านบนของจมูก ตรงนี้ถ้ามีสันสูงอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้ซิลิโคน สามารถใช้กระดูกอ่อนหรือเนื้อเยื่อนิ่มมาเติมที่สันจมูกได้ แต่พบว่าคนไทยส่วนใหญ่มากกว่า 80-90% สันจมูกจะค่อนข้างเตี้ยมาก ขาดเยอะมาก จึงกล่าวได้ว่าส่วนใหญ่ของคนไทยบริเวณสันจมูกมักจะต้องเสริมด้วยวัสดุอื่น เช่น ซิลิโคน กอร์เท็กซ์ (PTFE) เนื้อเยื่อสังเคราะห์ (ADM) เป็นต้น

 

ส่วนที่สองคือสันจมูก หรือประมาณ4ใน5ด้านบนของจมูก ตรงนี้ถ้ามีสันสูงอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้ซิลิโคน สามารถใช้กระดูกอ่อนหรือเนื้อเยื่อนิ่มมาเติมที่สันจมูกได้ แต่พบว่าคนไทยส่วนใหญ่มากกว่า 80-90% สันจมูกจะค่อนข้างเตี้ยมาก ขาดเยอะมาก จึงกล่าวได้ว่าส่วนใหญ่ของคนไทยบริเวณสันจมูกมักจะต้องเสริมด้วยวัสดุอื่น เช่น ซิลิโคน กอร์เท็กซ์ (PTFE) เนื้อเยื่อสังเคราะห์ (ADM) เป็นต้น

เสริมจมูก OPEN ถ้าไม่ใช้ซิลิโคนแล้วใช้อะไรเสริม

จำเป็นต้องใช้กระดูก

ส่วนที่สองคือสันจมูก หรือประมาณ4ใน5ด้านบนของจมูก ตรงนี้ถ้ามีสันสูงอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้ซิลิโคน สามารถใช้กระดูกอ่อนหรือเนื้อเยื่อนิ่มมาเติมที่สันจมูกได้ แต่พบว่าคนไทยส่วนใหญ่มากกว่า 80-90% สันจมูกจะค่อนข้างเตี้ยมาก ขาดเยอะมาก จึงกล่าวได้ว่าส่วนใหญ่ของคนไทยบริเวณสันจมูกมักจะต้องเสริมด้วยวัสดุอื่น เช่น ซิลิโคน กอร์เท็กซ์ (PTFE) เนื้อเยื่อสังเคราะห์ (ADM) เป็นต้น

ส่วนที่สองคือสันจมูก หรือประมาณ4ใน5ด้านบนของจมูก ตรงนี้ถ้ามีสันสูงอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้ซิลิโคน สามารถใช้กระดูกอ่อนหรือเนื้อเยื่อนิ่มมาเติมที่สันจมูกได้ แต่พบว่าคนไทยส่วนใหญ่มากกว่า 80-90% สันจมูกจะค่อนข้างเตี้ยมาก ขาดเยอะมาก จึงกล่าวได้ว่าส่วนใหญ่ของคนไทยบริเวณสันจมูกมักจะต้องเสริมด้วยวัสดุอื่น เช่น ซิลิโคน กอร์เท็กซ์ (PTFE) เนื้อเยื่อสังเคราะห์ (ADM) เป็นต้น

จมูกแบบไหน ควรเสริมจมูกแบบ OPEN

บางคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมต้องทำเสริมจมูกแบบ open  หรือแม้กระทั่งคนที่เสริมใหม่ไม่เคยเสริมมาก่อน เสริมแบบไม่openได้ไหม ต้องบอกก่อนเลยว่าเสริมจมูกเทคนิคopen เป็นเทคนิคที่แก้ไขโครงสร้างโดยตรงถึงแม้บางทีคนที่ต้องการเสริมจมูกใหม่ไม่เคยทำอะไรมาก่อนแต่อาจมีปัญหาที่โครงสร้างได้ เช่น จมูกฮัมพ์สูง ปลายงุ้มเยอะ โครงสร้างจมูกใหญ่ ปลายจมูกทั้งสั้นและกุด รวมถึงฐานจมูกเดิมเบี้ยวเอียงหรือคด ซึ่งจมูกที่มีปัญหาเหล่านี้เทคนิคopenจะช่วยแก้ไขได้อย่างตรงจุด เนื่องจากคุณหมอได้เปิดเข้าไปแก้ไขที่โครงสร้างโดยตรงหรือในเคสที่แก้ซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ทำให้โครงสร้างเดิมเสียหายแต่ทรงก็ยังไม่ถูกใจ เคสเหล่านี้ก็เหมาะกับการเสริมจมูกเทคนิค open  มากกว่าเทคนิคปิดเช่นกัน

จมูกเบี้ยวเอียง

โครงสร้างจมูกใหญ่

จมูกฮัมพ์สูง ปลายงุ้มเยอะ

จมูกสั้นกุด

Edit Content

จมูกฮัมพ์สูง หรือจมูกนูนหลังเต่า

จะสังเกตได้ว่า คนที่มีฮัมพ์ ตรงบริเวณสันจมูกจะนูนสูงขึ้นมาก นูนสูงมาก-น้อย ขึ้นอยู่กับแต่ละคน  ส่วนใหญ่มักจะพบกับชาวต่างชาติ แต่คนไทยอาจจะมีให้เห็นบ้างประมาณนึง พอฮัมพ์สูง ยิ่งทำให้หน้าดูดุเกินไป ทำให้เหมือนผู้ชาย ดังนั้น คนที่มีปัญหาฮัมพ์สูง ในลักษณะนี้จะเหมาะกับการเสริมจมูกแบบเทคนิค Open ซึ่งคุณหมอจะตอกตอกฐาน ปรับขนาดกระดูกให้เรียบลง ทำให้สันจมูกเรียบสวยขึ้น

Edit Content

จมูกโต เนื้อเยอะ

สำหรับเคสที่มีปัญหาจมูกโต เนื้อเยอะ ต้องทำการลดขนาดจมูก เพื่อให้เรียวสวย ดังนั้นการผ่าตัดแบบเทคนิค open   เป็นการผ่าตัดที่ตอบโจทย์ และช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด เนื่องจากคุณหมอจะเข้าไปปรับแก้ไขโครงสร้างจมูกข้างในโดยตรง เคลียร์ปัญหาให้จมูกเรียวเล็ก พุ่ง ยาว โด่งขึ้นได้เต็มที่จากการยืดผนังกั้นจมูก

Edit Content

จมูกสั้น จมูกแหงน หรือทั้งสั้นและกุด

เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น จมูกสั้นมาแต่กำเนิด หรือ จมูกแก้บ่อย ๆ แล้วเกิดพังผิดหดรั้ง ทำให้จมูกสั้น แหงน (ภาวะContracted Nose) การเสริมจมูกสำหรับเคสที่จมูกสั้น เสริมแบบเทคนิคปิดจะไม่เพียงพอทำให้จมูกยาวขึ้น เพราะการเสริมจมูกแบบเทคนิคปิด จะมีข้อจำกัดของผิว หากเสริมสุดเนื้อ ฝืนเนื้อ ยาวรั้งเกินไป ก็อันตรายได้ในอนาคต เสี่ยงปลายแดง หรือปลายบางจนทะลุในลำดับต่อมาได้ ดังนั้นการแก้ไขจมูกสั้น แหงน โดยเทคนิค Open คุณหมอจะเปิดเข้าไปแก้ไขโครงสร้างข้างในโดยตรง  โดยมีการนำกระดูกอ่อน มายืดต่อส่วนจมูกจริงให้ยาวขึ้น แล้วยืดผนังกั้น พร้อมกับเทคนิคเฉพาะที่จะได้ทั้งความยาวและดีดปลายขึ้น จมูกจึงยาวและเรียวสวยขึ้น

Edit Content

จมูกงุ้ม

จะมีลักษณะปลายจมูกยาวและตกลง จะมีลักษณะคล้ายคันธนู ทำให้หน้าดูแก่ก่อนวัย  ซึ่งเคสที่มีปัญหาจมูกลักษณะนี้ เป็นปัญหาที่เกิดจากโครงสร้างกระดูก ดังนั้น หากต้องการทำจมูก ต้องเสริมและแก้ไขด้วยเทคนิค Open “ต่อ ยืด ยก และดีดปลายขึ้น” ทำให้ปลายจมูกเชิดขึ้นแล็กน้อยและพุ่งขึ้น  ทรงจะสวยงามขึ้น

จุดเด่นของการเสริมจมูกเทคนิค OPEN

  • แก้ไขปัญหารูปร่างจมูกได้ครบทุกรูปแบบ ทรงจมูกจึงสวยกว่า
  • ไม่เกิดซิลิโคนทะลุ เพราะไม่มีซิลิโคนที่ปลายจมูก
  • ด้วยการยืดผนังกั้นจมูก จมูกจะดูยาวขึ้นและเพิ่มปลายพุ่งได้มากกว่าเดิม
  • ลดขนาดฐานจมูกให้แคบลง ดูเล็กลง สันเรียวสวยธรรมชาติ
  • ลดขนาดปลายจมูกในคนจมูกใหญ่ได้ดี
  • แก้จมูกที่เบี้ยวเอียง หรือคดได้ดี เพราะไปแก้โครงสร้างที่เอียงจากด้านในเลย

การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก OPENRECONSTRUCTION

งดวิตามินและอาหารเสริม บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนการผ่าตัด 7-14 วัน

งดวิตามินและอาหารเสริม บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนการผ่าตัด 7-14 วัน

งดวิตามินและอาหารเสริม บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนการผ่าตัด 7-14 วัน

งดวิตามินและอาหารเสริม บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนการผ่าตัด 7-14 วัน

งดวิตามินและอาหารเสริม บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนการผ่าตัด 7-14 วัน

งดวิตามินและอาหารเสริม บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนการผ่าตัด 7-14 วัน

งดวิตามินและอาหารเสริม บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนการผ่าตัด 7-14 วัน

การดูแลตัวเองหลัง
เสริมจมูก OPEN ไร้ซิลิโคน

หลังจากเสริมจมูกไปแล้ว การดูแลตัวเองหลังจากเสริมจมูกก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้แผลยุบบวมดีและหายได้เร็วขึ้น บางเคสหลังเสริมจมูกแล้วทรงสวยมาก แต่พอกลับไปบ้านอาการบวมช้ำก็เริ่มเยอะขึ้น เนื่องจากไม่ได้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ เรามาดูกันว่าเสริมจมูกไปแล้วควรดูแลตัวเองยังไงตามที่ทีมแพทย์ LENISTA CLINIC แนะนำกัน

1. ทำควาสะอาดแผล

ทำความสะอาดแผลวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน โดยเช็ดด้วยน้ำเกลือเบาๆ พยายามเช็ดคราบเลือดที่เกาะออกให้สะอาด จนเห็นปมไหมชัดเจน จากนั้นป้ายขี้ผึ้งฆ่าเชื้อ บางๆ อย่าหนาจนเกินไป

2.ประคบเย็น

ให้ประคบเย็นใน 3 วันแรก (72ชม.หลังทำเสร็จ) โดยประคบบ่อยเท่าที่ทำได้ อาจจะประคบ 20 นาที แล้วพัก 20 นาที ประคบที่บริเวณแก้ม 2 ข้าง หน้าผาก ไม่ประคบที่จมูกโดยตรงเพราะอาจทำให้เกิดการเบี้ยวเอียงได้

3. หนุนศีรษะด้วยหมอนสูง

นอนหัวสูงในช่วง 3 วันแรก เพื่อลดอาการเลือดไหลซึมและลดอาการบวม ลดภาวะเลือดคั่งได้

4. ห้ามแผลโดนน้ำ

ห้ามน้ำเข้าแผลเด็ดขาด ส่วนใบหน้าให้ทำความสะอาดด้วยการเช็ดหน้าแทนการล้างหน้า 14 วัน

5. อาการหายใจติดขัด

การหายใจจะติดขัดได้บ้างในช่วง 2-3 อาทิตย์แรก โดยเฉพาะใน 3วันแรกไม่ต้องตกใจ เนื่องจากด้านในมีการแก้ไขโครงสร้างผนังกั้นจมูก จึงมีการบวมในรูจมูกทำให้หายใจไม่สะดวก (ต่างกับเทคนิคปิดหรือ semi open ที่ไม่ได้ทำผนังกั้นจมูก ด้านใจรูจมูกจึงไม่บวมจึงมักไม่มีผลต่อการหายใจ)

6. ทานยาตามที่แพทย์สั่ง

ทานยาที่ได้รับตามฉลากยาที่ทางคลินิกจัดให้ ยาฆ่าเชื้อ/ยาแก้อักเสบให้ทานจนหมด ยาลดบวม ยาแก้ปวด

7. งดแอลกอฮอลล์และบุหรี่

งดดื่มเหล้า งดสูบบุหรี่,บุหรี่ไฟฟ้า หลังทำอย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ (นม น้ำอัดลม กาแฟ สามารถทานได้)

8. หลีกเลี่ยงการทานอาหารบางชนิด

ควรหลีกเลี่ยงอาหารไม่สุก ไม่สะอาด เช่นของหมักดอง 3-4 สัปดาห์ (ผลไม้ทานได้ปกติทุกชนิด)

9. ประคบอุ่น

หลังทำ 4-5 วัน ถ้ายังรู้สึกว่ายังบวมหรือมีอาการเขียวช้ำ สามารถประคบอุ่นได้ แต่ต้องไม่ร้อนเกินจนทำให้ผิวหนังพุพอง แค่อุ่นๆก็เพียงพอ การประคบอุ่นจะช่วยให้การเขียวช้ำจางลงได้ไวขึ้น

รายละเอียดการผ่าตัด

4-6 ชั่วโมง

ดมยาสลบ

7 วันถอดเฝือก และ14วัน ตัดไหม

ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล

ตรวจติดตามเช็คผลหลังผ่าตัด

พักฟื้น 3 วัน

รวมรีวิวเสริมจมูก OPEN Rinoplasty

ลูกสาวเลอนิสต้า

LENISTA CLINIC

ปรึกษาการทำศัลยกรรมฟรี! พร้อมให้คำแนะนำ

ช่องทางการติดต่อ

ท่านสามารถเลือกช่องทางการติดต่อได้ด้านล่างนี้

* ปรึกษาฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย

  • ฟิลเลอร์
  • โบท็อก
  • เมโสแฟต
  • ปรับหน้าอ่อนเยาว์ด้วยฟิลเลอร์
  • แก้ถุงใต้ตา
  • ไม่ต้องผ่าตัด
  • วิตามินผิว
  • ทรีทเมนต์หน้า

Call Center

เปิดให้บริการ 09:00น. – 24:00น. ทุกวัน

© 2022 lenistaclinic.com สงวนลิขสิทธิ์.