เสริมคาง - lenistaclinic
ปรับแต่งการตั้งค่าความยินยอม
เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณนำทางได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง
คุกกี้ที่จัดอยู่ในประเภท "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากคุกกี้เหล่านั้นจำเป็นต่อการเปิดใช้งานฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์
เรายังใช้คุกกี้ของบุคคลที่สามที่ช่วยให้เราวิเคราะห์ว่าคุณใช้เว็บไซต์นี้อย่างไร จัดเก็บการตั้งค่าของคุณ และจัดหาเนื้อหาและโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับคุณ คุกกี้เหล่านี้จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณโดยได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากคุณเท่านั้น
คุณสามารถเลือกที่จะเปิดหรือปิดใช้งานคุกกี้เหล่านี้บางส่วนหรือทั้งหมด แต่การปิดใช้งานคุกกี้เหล่านี้อาจส่งผลต่อประสบการณ์การท่องเว็บของคุณ
ใช้งานอยู่เสมอ

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

Search
Close this search box.
Search

เสริมคาง

BONE LOCK

ทำไมต้องเสริมคางที่ LENISTA CLINIC

      ไม่ว่าใครก็อยากมีใบหน้าที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ โครงหน้าที่เรียวรับกันจรดปลายคาง ซึ่งคางที่สวยจะช่วยเพิ่มมิติและความสมมาตรให้กับใบหน้า
     ซึ่งที่ LENISTA CLINIC แพทย์จะทำการประเมินใบหน้าของคนไข้แต่ละเคสอย่างละเอียด เพื่อที่จะสามารถออกแบบรูปทรงของคางให้เข้ากับใบหน้าโดยรวมได้อย่างสมมาตร และตรงตามที่คนไข้ต้องการ
    นอกจากจะช่วยเสริมความมั่นใจในใบหน้าที่เรียวสวยอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว การเสริมคางกับ LENISTA CLINIC ยังลดโอกาสที่จะเกิดความ ผิดพลาด เบี้ยวเอียง ด้วยเทคนิค BONE LOCK ที่จะเลือกใช้ซิลิโคนขายาวออกซึ่งออกแบบอย่างพรีเมียมเพื่อคุณโดยเฉพาะ ดังสโลแกน ไม่ก้อนไม่ย้อย ไร้รอยต่อ

เลือกเนื้อหาที่สนใจได้เลย

5 เทคนิคการเสริมคาง สไตล์ Lenista Clinic

01

ประเมินและออกแบบคางตามแต่ละบุคคล

แพทย์จะประเมินโครงหน้าร่วมกับคนไข้เพื่อแนะนำรูปทรง ที่เหมาะสม รวมทั้งออกแบบรูปทรงคางอย่างละเอียด เพื่อผลลัพธ์ที่ทำให้หน้าเรียวเล็กเหมาะสมในแต่ละคนพร้อมทั้งแก้ปัญหาคาง ไม่ว่าจะเป็นคางสั้น คางใหญ่หรือ ปัญหาอื่นร่วมด้วย เช่น โหนกแก้มสูง โหนกแก้มใหญ่ แก้มเยอะหน้ากลม กรามใหญ่ คางเหลี่ยม ปัจจัยเหล่านี้แพทย์เฉพาะทางของเราจะออกแบบให้รับกับรูปหน้าเพื่อกลบจุดด้อยบริเวณโหนกแก้ม มุมกราม หรือแก้มกลม ของคนไข้ได้อย่างดี

02

ใช้ซิลิโคนขายาว ที่ออกแบบและเหลาเฉพาะเคส

การเสริมคางเพื่อให้รับกับกระดูกคางได้พอดี ทำให้ไม่เป็นก้อน ไม่ย้อย ไร้รอยต่อ ซิลิโคนขายาวที่เป็นบล็อคไม่ได้ทำให้คางเรียวสวยได้ทุกเคส แต่การออกแบบและเหลา ซิลิโคนขายาวให้ยาวพอดีกับความโค้งและขอบมุมของกระดูกคางต่างหากที่คือหัวใจของ การเสริมคาง รูปคางจะสวยหรือไม่สวยอยู่ที่ความปราณีตและความเก่งของแพทย์ที่จะออกแบบและเหลาซิลิโคนให้รับกับทุกมุมของกระดูกคาง ซึ่งมั่นใจได้ในแพทย์เฉพาะทาง 4 ที่ LENISTA CLINIC ซึ่ง มีทั้งศาสตร์และศิลป์ในการออกแบบได้เหมาะกับคุณ

03

ใช้เทคนิค Bone Lock เย็บล็อคไว้กับเยื่อหุ้มกระดูก ลดปัญหาการเบี้ยงเอียง

 คุณหมอจะใช้เทคนิคเซาะและเหลาให้แนบบนกระดูกคาง ล็อคไว้ใต้ เยื่อหุ้มกระดูกด้วยวิธีเฉพาะตัวของเลอนิสต้า เย็บล็อคไว้ 3 ชั้น ก็จะเพิ่มโอกาสยึดเกาะ
และลดโอกาสเบี้ยวเอียงได้เป็นอย่างดี

04

ลงแผลเล็กจิ๋วด้านนอก เจ็บน้อย กินข้าวสะดวก ลดความเสี่ยงติดเชื้อจากน้ำลายหรืออาหาร
ที่กินเมื่อเทียบกับแผลในปาก

ด้วยเทคนิคลับที่ลงแผลแค่ 1 – 2 cm. ก็สามารถวางซิลิโคนขายาว
ได้ที่ LENISTA CLINIC เท่านั้น แผลเล็กจิ๋วนี้จะซ่อนอยู่ใต้คาง หมดกังวล
เรื่องแผลเป็นขนาดใหญ่ ดูแลแผลง่าย ไม่เหมือนแผลในปาก กินข้าวสะดวก
และลดความเสี่ยงแผลติดเชื้อจากอาหารหรือน้ำลายได้ดี

05

ดูแลแผลหลังทำเรื่องสำคัญ

แผลนอกจะดูแลได้ง่ายกว่าแผลในปากเยอะ แผลสะอาดไม่โดนน้ำลาย ไม่เจ็บแผลตอนกินข้าว อย่างไรก็ดีหมั่นประคบเย็นใน 3 วันแรก (72 ชั่วโมง) หลังทำ
ก็จะลดอาการบวมได้ดี เข้าที่และเห็นทรงได้ไว คนไข้ก็ จะมีโครงหน้าที่สวยงาม
ดูเรียวเล็ก ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย

เสริมคาง มีกี่วิธี แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียอย่างไร?

ในการเสริมคางจะมีด้วยกันมี 2 วิธี คือ การเสริมคางแบบเปิดแผลในปาก และการเสริมคางแบบเปิดแผลด้านนอกที่ใต้บริเวณคาง ซึ่งทั้งสองวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ไปดูกันว่าทั้ง 2 วิธีนี้มีรายละเอียดที่แตกต่างกันอย่างไร

การเสริมคางแบบเปิดแผลในปาก

ข้อดี

  • ไม่มีแผลให้เห็นจากภายนอก

ข้อเสีย

  • อาจจะยากกว่าแผลนอก เพราะถ้าทำได้ไม่ดีอาจจะได้คาง ที่ยื่นเกินไป คางเป็นก้อน ไม่ได้ยาวขึ้นตามที่ต้องการ เพราะ ส่วนใหญ่สาวไทยหรือเอเชียมักจะมีรูปหน้าที่กลมหรือใหญ่การออกแบบวางซิลิโคนคางจึงควรว่างล่างสุดใต้คางเพื่อให้ได้รูปหน้าที่เรียวสวยขึ้น การเสริมคางโดยลงแผลในปาก ตำแหน่งแผลจะไกลจาก จุดใต้คางอย่างมาก ทำให้ชิลิโคนวางตรงตำแหน่งได้ยาก มีโอกาสเคลื่อนมาข้างหน้า จนทำให้คางมีลักษณะเป็นก้อนได้สูง การดูแลแผลในปาก มักจะดูแลได้ยากกว่าการลงแผลด้านนอก เพราะการกินอาหารจะทำให้แผลไม่สะอาด มีโอกาสที่แผลอักเสบติดเชื้อได้จากการสัมผัสน้ำลายหรืออาหารที่ไม่สะอาดแผลด้านในปากมักเกิดพังผืดได้มาก ถึงแม้แผลจะขนาดเล็กแต่ พังผืดด้านในมักทำให้เกิดความรำคาญตอนอ้าปาก พูดเคี้ยวอาหาร

การเสริมคางแบบเปิดแผลด้านนอกที่ใต้บริเวณคาง

ข้อดี

  • ขนาดของแผลขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ผ่าตัด ซึ่งสามารถกำหนดขนาดของแผลได้ แผลเล็กมากไม่เกิน 1 – 2 cm.
  • แทบไม่มีแผลเป็นเลยหรือมีแผลเป็นน้อยมาก
  • ดูแลแผลง่ายกว่าการลงแผลในปาก เพราะสามารถทานอาหารได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแผลอักเสบจากน้ำลายหรืออาหารที่ไม่สะอาด
  • ด้วยรูปหน้าสาวไทยที่มีใบหน้าค่อนข้างสั้น หน้ากลม หรือหน้าใหญ่ การวางซิลิโคนเสริมคางด้วยเทคนิคแผลนอกจะสามารถวางด้านใต้คางได้ง่ายกว่า
  • วางได้ตรงตำแหน่งพอดีสำหรับคนใบหน้าสั้นใบหน้าใหญ่
  • แก้ปัญหาซิลิโคนเคลื่อนขึ้นมาด้านหน้า ทำให้หน้าไม่เรียวไม่เล็ก และอาจทำให้คางเป็นก้อน นูนทางด้านหน้าได้

ข้อเสีย

  • แก้ปัญหาซิลิโคนเคลื่อนขึ้นมาด้านหน้า ทำให้หน้าไม่เรียวไม่เล็ก และอาจทำให้คางเป็นก้อน นูนทางด้านหน้าได้

ข้อควรระวัง

สำหรับคนที่มีเกิดรอยแผลเป็นได้ง่าย การดูแลรักษาอย่างดี ทาครีมลดรอยแผลเป็นอย่างสม้ำเสมอรอยแผลเป็นก็จะค่อย ๆ จางหายได้ โดยเฉลี่ยต้องใช้ระยะนานพอสมควร ประมาณ 1-3 เดือน ส่วนความนิ่มของแผลหลังผ่านไป 6 เดือนแผลก็จะค่อย ๆ นิ่มลงจนเป็นธรรมชาติ

เสริมคาง ซิลิโคนขาสั้น หรือ ซิลิโคนขายาวแบบไหนดีกว่ากัน ?

การเสริมคางด้วยชิลิโคนขาสั้น

เหมาะสำหรับคนที่มีใบหน้าค่อนข้างได้สัดส่วนอยู่แล้ว ต้องการเติมหรือเน้นความยาวบริเวณส่วนกลางของคางหรือด้านล่างของคางอีกเล็กน้อยก็จะเข้ารูป นอกจากนี้ คนที่ที่มีรูปหน้าใหญ่บางคนที่เกิดจากโครงสร้างกระดูกใบหน้าใหญ่เกินคนกลุ่มนี้มักจะนึกว่าไม่มีคาง คางสั้น หน้าไม่เรียว แต่จริง ๆ แล้วเกิดจากโครงหน้า ที่ใหญ่ กระดูกคางมักจะมีขนาดยาว ใหญ่ และกว้างเกินไป การแก้ไขทำได้ทั้งการ ผ่าตัดกระดูกคางและขากรรไกร หรือการเสริมคางด้วยชิลิโคนขาสั้น ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่งฯ เท่านั้น เพราะคุณหมอจะสามารถเลือกขนาดซิลโคนที่ดี วางตำแหน่งที่เหมาะสม ออกแบบได้ให้เข้ากับรูปหน้าได้สวยงาม แก้ไขสาวหน้าใหญ่จากกระดูกคางที่ทั้งใหญ่และกว้าง ให้กลับมาดูหน้าเรียวเล็กขึ้นได้
Chin Implant
Short Type
Chin Implant
Extended Type

การเสริมคางด้วยซิลิโคนขายาว

เหมาะสำหรับสาวไทยส่วนมาก ที่มีใบหน้ากลมใบหน้าสั้น คางถอยเยอะ คางสั้น คางเหลี่ยมมากเพราะซิลิโคนที่มีขายาวจะถูกออกแบบให้วางครอบแนวกราม และกระดูกปลายคางให้รับกรอบหน้าพอดี ช่วยให้ใบหน้า ดูเรียวยาวได้สัดส่วนมากขึ้น และเห็นรอยต่อน้อยหรือแทบจะไร้รอยต่อ ข้อควรระวัง คือ ซิลิโคนขายาวไม่ได้แก้ปัญหารอยต่อหรือทรงคางได้ในทุกเคสแต่การจะแก้รอยต่อหรือทรงคางได้ดีเกิดจากการดีไซน์ออกแบบซิลิโคนที่กว้างยาวพอดีกับรูปคางต่าง ดังนั้น แพทย์ทั่วไปหรือแพทย์ที่ยังไม่ชำนาญพอใช้ชิลิโคนขายาวสำเร็จรูป ก็จะไม่สามารถได้ผลลัพธ์ที่ดีได้
ด้วยข้อดีข้อเสียของซิลิโคนแต่ละแบบ LENISTA CLINIC จึงเสริมคางด้วยเทคนิค BONE LOCK เป็นซิลิโคนขายาว (โดยส่วนมาก) เหลาซิลิโคนปรับตามรูปหน้า เข้าได้กับทุกคน ด้วยความชำนาญของแพทย์เฉพาะทางในการออกแบบรูปทรงให้สวยงาม ซิลิโคนจะครอบกระดูกปลายคางได้พอดี ใบหน้าเรียวยาวขึ้น ไร้รอยต่อ

ซิลิโคนขายาวแผลจะยาวกว่าซิลิโคนขาสั้นจริงไหม ?

ซิลิโคนขายาวแผลมักจะยาวกว่าการใช้ซิลิโคนขาสั้นจริง แต่ด้วยเทคนิค Bone Lock ของแพทย์เฉพาะทาง ที่เลอนิสต้าคลินิก การเสริมคางด้วยซิลิโคนขายาว จะลงแผลใต้คาง แค่ประมาณ 1-2 cm. เท่านั้น ต่างจากที่อื่นๆ ที่ต้องลงแผลยาว 2-4 cm. และแผลที่เลอนิสต้าคลินิก ยังซ่อนอยู่มุมหลีบด้านใต้คางได้พอดี แผลจึงเล็กมากไม่ต้องกังวลเรื่องการมีแผลเป็นที่เด่นชัด

รายละเอียดการผ่าตัด

4 - 6 ชั่วโมง
ดมยาสลบ
7 วัน ถอดเฝือก และ 14 วันตัดไหม
ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
ตรวจติดตามเช็คผลหลังการผ่าตัด
พักฟื้น 3 วัน

Q&A ถามตอบข้อสงสัยการเสริมคาง

Q : ซิลิโคนที่ใช้ของอะไร ของประเทศอะไร นี่มไหม ขาสั้นหรือขายาว
A : ซิลิโคนที่ทางคลินิกใช้เป็นซิลิโคน USA ส่วนใหญ่มักจะใช้ขายาว เพราะรับกับรูปหน้า หน้าเรียว ทรงสวยเข้ากับเทคนิค bone lock ได้ดี กันเบี้ยวเอียงได้ อาจมีการใช้ชิลิโคนขาสั้นในบางคนเท่านั้นที่มีคางอยู่แล้วหรือคนที่มีคางใหญ่มาก ๆ เพราะจะทำให้คางดูเล็กลงได้ดีจุดเด่นของการทำคางด้วยซิลิโคนอเมริกา คือ จะนิ่มกำลังดี เป็นซิลิโคนที่มีมาตรฐานพิเศษ มีค่าความบริสุทธิ์ของซิลิโคนสูงมาก (Medical grade silicone) เป็นเกรดทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับในวงการศัลยกรรมความงาม เสริมให้คางดูทรงเป็น ธรรมชาติ มีความปลอดภัยต่อร่างกาย มีความยืดหยุ่นเหลาขึ้นรูปได้ง่ายเพื่อให้เข้ากับโครงหน้าของแต่ละบุคคล
Q : เสริมคางเจ็บไหม?
A : การเสริมคาง เป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก ที่ทำการผ่าตัดด้วยการฉีดยาชา (ดมยาสลบได้ถ้าคนไข้ต้องการ) ดังนั้น ความรู้สึกเจ็บจะมีแค่ตอนฉีดยาชาเท่านั้น หลังยาชาออกฤทธิ์ระหว่างที่ผ่าตัดจนผ่าตัดเสร็จ คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บแต่หลังยาชาหมดฤทธิ์ อาจจะมีอาการตึงหรือรู้สึกเจ็บบ้างเล็กน้อยหลังทำ 24 – 48 ชั่วโมง ซึ่งสามารถรับประทานยาแก่ปวดได้ รวมถึงการประคบเย็นเพื่อช่วยลดปวดและลดบวม หลังผ่าตัดเสร็จสามารถเดินทางกลับบ้านพักฟื้นได้ โดยไม่ต้องพักฟื้นที่คลินิก
Q : เสริมคาง พักฟื้นนานแค่ไหน?
A : การพักฟื้นหลังจากการผ่าตัดเสริมคาง เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7 วัน แต่สามารถไปไหนมาไหนได้ ใช้ชีวิตได้ตามปกติตั้งแต่วันแรกหลังผ่าตัด โดยไม่กระทบกิจวัตรประจำวัน หลังทำ 7 – 10 วัน จะนัดเข้ามาเพื่อเช็คแผลและตัดไหม ทรงคางจะเข้าที่ใช้เวลาประมาณ 1- 3 เดือน

ปัญหาทางการแพทย์ที่ต้องประเมินเพิ่ม

แพทย์จะประเมินเพิ่มจากเคสที่มีลักษณะคางถอย คางนุ่ม หรือเคสที่เคยฉีดสารเหลวมาก่อน

คางถอย

คางบุ๋ม

เคยฉีดสารเหลวมาก่อน

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมคาง

แน่นอนว่าก่อนที่เราจะไปเสริมคาง สิ่งที่สำคัญมากเป็นอันดับแรกเลย คือ การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดนั่นเอง ซึ่งแนะนำว่าให้ทุกคนเตรียมตัวกันให้พร้อม โดยการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมคางมี ดังต่อไปนี้
1. แจ้งข้อมูลทางด้านสุขภาพ เช่น มีโรคประจำตัวอะไรบ้าง มีประวัติแพ้ยาหรือไม่
2. งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
3. เตรียมรูปทรงคาง ตัวอย่างที่อยากได้ หรือให้คุณ
4. ควรทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้ารับการผ่าตัด เช่น ล้างหน้าแปรงฟัน และบ้วนปากให้เรียบร้อย
5. ทานอาหารให้พออิ่มก่อนเข้าห้องผ่าตัด ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหารแต่ถ้าดมยาสลบต้องงดน้ำงดอาหาร 8 ชั่วโมง
6. ไม่ควรเสริมเสื้อผ้าที่มีโลหะนำไฟฟ้า และถอดเครื่องประดับ ที่เป็นโลหะก่อนทำการผ่าตัด

การดูแลหลังทำเสริมคาง

หลังจากผ่าตัดเสริมคาง แน่นอนว่าจะมีเรื่องอาการบวมซึ่งนับว่าเป็นเรื่องปกติมาก แต่ด้วยเทคนิคพิเศษของ LENISTA CLINIC ที่หลังผ่าตัดอาการบวมซ้ำจะถือว่าน้อยมาก ทั้งนี้ อาการบวมอาจยังเกิดขึ้นได้ ซึ่งในแต่ละคนจะมีอาการบวมมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด
1- 3 วันแรก (72ชม.แรกหลังทำ) หลังจากการผ่าตัดเสริมคางให้ประคบเย็น เพื่อลดอาการบวมซ้ำ วันที่ 4 เปลี่ยนมาเป็นประคบอุ่นแทน การประคบให้ประคบด้านข้างและด้านใต้ของคาง อย่าประคบตรงกลางเพราะอาจโดนซิลิโคนและทำให้เคลื่อนได้ในช่วงแรกที่แผล ยังไม่หายดี
นอนศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวมใน 3 วันแรก หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง เพราะอาจจะทำให้เสียรูปทรงได้
ทำความสะอาดแผลวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น หลังแกะผ้าเทป ที่ตามคางออก (โดยทั่วไปมักตามคางไว้ 5 วัน)
ระวังอย่าให้น้ำประปาโดนแผลผ่าตัด จะใช้การเช็ดหน้าแทนการล้างหน้า เพื่อไม่ให้น้ำเข้าแผล
งดอาหารที่ไม่สุกและไม่สะอาด เช่น ส้มตำ ปลาร้า ของหมักดองอาจทานอาหารอ่อนที่ไม่ต้องใช้แรงบดเคี้ยงมากก็จะช่วยให้ไม่ค่อยเจ็บแผลผ่าตัดได้
งดสูบบุหรี่ งดแอลกอฮอล์ 1 เดือน
งดออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 1 เดือน หลังทำ 2 สัปดาห์สามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้ถ้าแผลดีแล้ว
รับประทานยา ตามที่แพทย์สั่งให้ครบ
หากรู้สึกปวดมากกว่าปกติ หรือมีข้อสงสัยต่าง ๆ อย่าปล่อยทิ้งไว้หรือจัดการปัญหาด้วยตนเอง ควรไปปรึกษาแพทย์ทันที
หลังศัลยกรรมไปแล้วทางคลินิกจะมีทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาความงามและเจ้าหน้า Customer Care คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง