Call Center
เปิดให้บริการ 09:00น. – 24:00น. ทุกวัน
© 2022 lenistaclinic.com สงวนลิขสิทธิ์.
“ดูดเหนียง” อาจเป็นวิธีที่ช่วยลดปัญหาเหนียงใต้คางให้กับใครหลายๆคนได้ เนื่องจากเป็นปัญหากวนใจทั้งหญิงและชาย และเป็นปัญหาที่ทำให้ทุกคนเกิดความไม่มั่นใจในใบหน้าได้อีกสาเหตุ อย่างเช่นเหนียงยานเหมือนคนแก่หรืออายุเยอะ บางคนทั้ง ๆที่เราก็ออกจะผอมแต่ก็มีเหนียงใต้คางได้ “ทำให้หน้าดูอ้วน” แต่บางคนอายุไม่มากแต่ก็มีเหนียงใต้คางจนกลายเป็นคางสองชั้น อาจเป็นเพราะน้ำหนักที่มากเกินไป หรือเพราะทางพันธุกรรมอาจเป็นได้
เลือกเนื้อหาที่สนใจได้เลย
Toggleเดี๋ยวก่อนสาวๆไม่ต้องกลัวไปเดี๋ยวนี้แพทย์มีเทคนิควิธีที่ทันสมัยและแพทย์มีผู้เชี่ยวชาญที่หลากหลายมากขึ้น
วิธีลดเหนียงสามารถทำได้หลายวิธี มีทั้งการฉีดแฟตเหนียง (ฉีด MESO FAT) การดูดไขมันเหนียง หรือการนวดด้วยความร้อน เป็นต้น อย่างไรก็ตามเราลองมาทำความรู้จักเหนียงกันก่อนว่าเกิดจากอะไร และกำจัดด้วยวิธีไหนได้บ้าง
เป็นก้อนไขมันที่สะสมอยู่ชั้นผิวหนังบริเวณใต้คาง หรือลำคอส่วนบน เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ไขมันใต้คาง” หรือ “คางสองชั้น” เกิดจากที่เราทานอาหารที่มีไขมันสูง และไม่ออกกำลังกายทำให้เกิดการสะสมไขมันได้เช่นกัน พอเราก้มลงจะเห็นเป็นคางสองชั้นนั่นเอง
การแก้ไขปัญหาไขมันส่วนเกินที่สะสมบริเวณผิวหนังใต้คางและลำคอส่วนบน โดยสามารถทำได้ทั้งการใช้เครื่องดูดไขมัน หรือการดูดไขมันด้วยมือสำหรับคนที่มีเหนียงน้อยมาก ซึ่งการดูดเหนียงแต่ละวิธีนั้นต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย มีผลข้างเคียงน้อยที่สุด
เป็นวิธีลดเหนียงที่เห็นผลลัพธ์รวดเร็วทันใจที่สุด เพราะเป็นการกำจัดไขมันเหนียงใต้คางได้อย่างตรงจุดและเห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและยาวนาน
เป็นการลดเหนียงฉีดยกกระชับใบหน้า แนวกราม และลำคอ ทำให้กล้ามเนื้อมัดตึงขึ้น และเหนียงยกกระชับมากขึ้น ทำให้กรอบหน้ามีความชัดเจน โดยวิธีนี้เริ่มเห็นผลประมาณ 1-2 สัปดาห์ และเห็นผลอย่างชัดเจนภายใน 1 เดือน หรืออาจนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพของกล้ามเนื้อและการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคน
การฉีดสลายไขมัน หรือ ฉีดเมโสแฟต เป็นวิธีการฉีดตัวยาเพื่อช่วยลดไขมันที่เหนียงเป็นการสลายไขมันส่วนเกินที่จับตัวกันเป็นก้อน ทำให้ไขมันละลาย กลายเป็นของเหลว และถูกกำจัดออกด้วยระบบการเผาผลาญของร่างกายต่อไป
ฉีดยาชาเฉพาะที่
เปิดแผล 0.5 ซม.
และทำการดูดไขมัน
ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ไขมันเหนียง เกิดจากการสะสมของไขมันที่อยู่บริเวณใต้คาง ซึ่งมาจาก พันธุกรรม โครงสร้างใบหน้า กล้ามเนื้อใต้คาง การดูแลตัวเอง ไม่ออกกำลังกาย ไม่ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เรียกได้ว่าเหนียงเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย จนทำให้เกิดเหนียงโดยไม่รู้ตัว และในแต่ละคนก็จะมีขนาดของเหนียงมากน้อย แตกต่างกันไป ที่สำคัญคือไม่ได้จำกัดเฉพาะคนอ้วนเท่านั้น แต่คนผอมก็มีเหนียงได้เช่นกัน
กินอาหารที่มีรสเค็มมากเกินไปส่งผลทำให้มีโอกาสหน้าบวม เพราะเราได้รับโซเดียมในอาหารรสเค็มมากเกินไปทำให้ร่างกายปรับสมดุลโดยกักเก็บน้ำอัตโนมัติ เพื่อขับโซเดียมส่วนเกินออกทางไต หรือยิ่งไปกว่านั้นเราสามารถเกิดอาการบวมน้ำได้ในชั่วข้ามคืม เรียกอาการนี้ว่า “บวมน้ำ ” ทำให้เรารู้สึกบวมทั้งหน้า บวมทั้งตัว ถ้าจะให้ดีควรเลี่ยงอาหารรสเค็ม หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ปรุงให้พอดีไม่เค็มจนเกินไป กินอาหารที่มีรสเค็มมากเกินไปส่งผลทำให้มีโอกาสหน้าบวม เพราะเราได้รับโซเดียมในอาหารรสเค็มมากเกินไปทำให้ร่างกายปรับสมดุลโดยกักเก็บน้ำอัตโนมัติ เพื่อขับโซเดียมส่วนเกินออกทางไต หรือยิ่งไปกว่านั้นเราสามารถเกิดอาการบวมน้ำได้ในชั่วข้ามคืม เรียกอาการนี้ว่า “บวมน้ำ ” ทำให้เรารู้สึกบวมทั้งหน้า บวมทั้งตัว ถ้าจะให้ดีควรเลี่ยงอาหารรสเค็ม หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ปรุงให้พอดีไม่เค็มจนเกินไป ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม (เทียบเท่าเกลือ 1 ช้อนชา หรือน้ำปลา 4-5 ช้อนชา)
สายของหวานข้อนี้อาจเป็นปัญหาที่ยากสำหรับคนที่ติดกินของหวานมาก เช่น น้ำหวาน ชาไข่มุก หรือสาวๆที่ชอบเที่ยวคาเฟ่ สั่งบิงซู ฮันนี่โทสต์มาทาน อาจจะลดหรือเลิกกินยากกว่าคนทั่วไป การกินหวานในปริมาณที่มากนักอาจไม่ใช่ให้พลังงานแก่ร่างกาย หรือทำให้รู้สึกสดชื่อกระชุ่มกระชวยได้อย่างเดียว แต่มีโทษที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาด เช่น ทำให้อ้วน เป็นโรคเบาหวาน ทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบ ระบบการย่อยอาหารไม่ดี มีกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป ทำให้ฟันผุ อีกทั้งน้ำตาลในของหวานมีผลเพิ่มปริมาณของไขมันร้าย หรือ ไขมันเลว และไปลดปริมาณของไขมันดีได้ ส่วนใครไม่อยากแก่เร็วน้ำตาลก็มีส่วนที่ทำให้หน้าแก่ก่อนวัยได้เหมือนกัน ถ้าอยากใส่น้ำตาลจริงๆขอนิดหน่อยก็ดี ปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสมที่สาวๆควรกินก็คือไม่เกิน 25 กรัม หรือ 5 ช้อนชาต่อวัน
สาวๆคนไหนที่หิวและกินตอนดึกฟังทางนี้ ต้องระวังไว้เลยพฤติกรรมการกินแบบนี้เพราะมีส่วนสูงที่จะเกิดไขมันที่เหนียงได้มาก เวลานี้ควรที่จะนอนเพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมและเวลานี้กระเพาะคนเราไม่สามารถเผาผลาญแคลรี่ได้แล้ว อย่างที่บอกร่างกายจะถูกปิดระบบและซ่อมแซมร่างกายที่เราใช้มาทั้งวัน เพื่อกลับไปทำงานอีกครั้งในเวลาเช้าตื่นนอน ถ้าเรายังกินมื้อดึกอาหารเหล่านี้จะสะสมอยู่ตามหน้าตามร่างกายไม่เผาผลาญและสะสมไปเรื่อยๆ ยิ่งคนที่ไม่ออกกำลังยิ่งไม่หายไม่ลดไปแน่นอน เหมือนหยอดกระปุกสะสมไปเรื่อยๆ จนตัวและหน้าเริ่มอ้วนจนเกิดเป็ฯโรคต่างๆในที่สุด เพราะฉะนั้นต้องงดกินมื้อดึกเด็ดขาด ถ้าไม่อยากมีเหนียงเป็นคางสองชั้น
ใครที่ไม่ชอบกินผักสังเกตได้เลยว่าหน้าบวมมีเหนียงเยอะมาก ผักนี่ก็เป็นตัวที่สามารถลดไขมันได้เหมือนกัน เพราะร่างกายเราต้องใช้วิตามินในผักเพื่อช่วยระบบเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายมีการขับถ่ายของเสียได้ดี ที่สำคัญไปกว่านั้นควรเลือกกินผักที่มีสารเบต้าแคโรทีน และวิตามินเอ พวกผักผลไม้ใบสีเหลืองและสีส้ม เพราะวิตามินและแร่ธาตุ 2 ชนิดนี้จะไปฟื้นฟูสภาพผิวหนังและเซลล์ให้ตึงกระชับ ไม่หย่อยคล้อย และดูอ่อนกว่าวัย
สายปาร์ตี้ดื่มหนักก็หนีไม่พ้นเหมือนกัน ยิ่งดื่มหนักเหนียงก็มาได้ และไม่ใช่แค่เหนียงตัวก็บวมได้เช่นกันสำหรับคนที่ชอบดื่มเบียร์ ทำไมดื่มแอลกอฮอล์ถึงอ้วนล่ะ เพราะแอลกอฮอล์จะไปลดการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ถ้าระบบเผาผลาญร่างกายได้น้อย ไขมันก็จะสะสมมาก มิหนำซ้ำทำให้ร่างกายขาดน้ำเกิดการกักน้ำไว้ ทำให้เรา “บวมน้ำ” นั้นเอง พอเราเกิดการบวมน้ำทั้งหน้าและตัวก็บวมไปหมด อย่างที่บอกยิ่งเป็นเบียร์ยิ่งหนักไปเลย ถ้าใครงดไม่ได้ ก็แค่ลดก็พอ ดื่มแบบกำลังดีให้มีสติ ไม่ใช่แค่ไม่ให้บวมน้ำ แต่ยังปลอดภัยต่อคนดื่มอีกด้วย
ช่วงอายุที่เหมาะสมในการดูดเหนียง เหมาะกับผู้ที่มีช่วงอายุระหว่าง 20-50 ปี เพราะผิวหนังยังสามารถกระชับได้ อย่างไรก็ตามหากอายุมากกว่านี้ลองปรึกษากับคุณหมอดูก่อนได้ เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมในการกระชับผิวที่หย่อนคล้อยใต้คาง
1
อาจมีอาการบวมช้ำได้ หลังการดูดไขมันเหนียง จะมีรอยช้ำม่วงตรงบริเวณที่ดูดไขมันออกไปหรืออาจจะหน้าบวมเล็กน้อยขึ้นอยู่แต่ละบุคคล อาการบวมช้ำนี้จะค่อยๆทุเลาลงใน 3-4 วัน และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หลังจากนั้นไม่เกิน 3 สัปดาห์ก็จะหายเป็นปกติ
2
ในบางกรณีเหนียงอาจกลับมาได้อีก ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของคนไข้ จริงอยู่ที่เป็นวิธีกำจัดเหนียงแบบถาวรและเอาออกได้หมด แต่หากเราไม่ควบคุมพฤติกกรม และไม่รักษาสมดุลร่างกายให้ดี ก็มีสิทธิ์เกิดเหนียงได้อีก
3
การดูดไขมันเหนียงถือเป็นศัลยกรรมขนาดเล็กที่ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ที่ LENISTA แพทย์จะทำการฉีดยาชาเฉพาะจุดก่อนดูดเหนียง เพื่อให้คนไข้ไม่ต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน หลังจากยาชาออกฤทธิ์ก็เปิดแผลเล็ก ๆ ใต้คาง ประมาณ 0.5 เซนติเมตรเท่านั้น
ก่อนจะดูดไขมันที่สะสมออกมากำจัดทิ้งแบบถาวร ก่อนจะเย็บแผลกลับบ้าน และกลับมาตัดไหมในอีก 7 วันเท่านั้น
ฉีดยาชาเฉพาะจุด
ระยะเวลาดูดไขมันเหนียง 30นาที-1 ชั่วโมง
ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับบ้านได้เลย
ตัดไหม ครบ 7 วัน
ตรวจติดตาม 7วัน 14วัน
1เดือน 3เดือน และ6เดือน
อาการบวมหลัง ดูดไขมันเหนียง ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเพียง 1-2 อาทิตย์ อาการบวมก็ลดลงและใบหน้าเริ่มเข้าที่แล้ว
จะมีรอยแผลขนาด 0.5 ซม.เท่านั้น และรอยแผลจะค่อยๆจางลงไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับการดูแลแผลของแต่ละคน
ศัลยแพทย์จะทำการฉีดยาชาเพื่อระงับความเจ็บระหว่างทำ จะมีความรู้สึกเจ็บแค่ช่วงฉีดยาชาเล็กน้อย หลังจากที่ยาชาออกฤทธิ์จะไม่รู้สึกเจ็บ
มีโอกาสการกลับมา ถ้าคนไข้ยังมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ทำให้เกิดสาเหตุของเหนียงอยู่
ปรึกษาการทำศัลยกรรมฟรี! พร้อมให้คำแนะนำ
Call Center
เปิดให้บริการ 09:00น. – 24:00น. ทุกวัน
© 2022 lenistaclinic.com สงวนลิขสิทธิ์.