Search
Close this search box.
Search

ดูดเหนียงที่ไหนดี ดูดเหนียงเจ็บไหม LENISTA มีคำตอบ

“ดูดเหนียง” อาจเป็นวิธีที่ช่วยลดปัญหาเหนียงใต้คางให้กับใครหลายๆคนได้ เนื่องจากเป็นปัญหากวนใจทั้งหญิงและชาย และเป็นปัญหาที่ทำให้ทุกคนเกิดความไม่มั่นใจในใบหน้าได้อีกสาเหตุ อย่างเช่นเหนียงยานเหมือนคนแก่หรืออายุเยอะ บางคนทั้ง ๆที่เราก็ออกจะผอมแต่ก็มีเหนียงใต้คางได้ “ทำให้หน้าดูอ้วน” แต่บางคนอายุไม่มากแต่ก็มีเหนียงใต้คางจนกลายเป็นคางสองชั้น อาจเป็นเพราะน้ำหนักที่มากเกินไป หรือเพราะทางพันธุกรรมอาจเป็นได้

เดี๋ยวก่อนสาวๆไม่ต้องกลัวไปเดี๋ยวนี้แพทย์มีเทคนิควิธีที่ทันสมัยและแพทย์มีผู้เชี่ยวชาญที่หลากหลายมากขึ้น

วิธีลดเหนียงสามารถทำได้หลายวิธี มีทั้งการฉีดแฟตเหนียง (ฉีด MESO FAT) การดูดไขมันเหนียง หรือการนวดด้วยความร้อน เป็นต้น อย่างไรก็ตามเราลองมาทำความรู้จักเหนียงกันก่อนว่าเกิดจากอะไร และกำจัดด้วยวิธีไหนได้บ้าง

ดูดเหนียง

ไขมันเหนียง คืออะไร

ไขมันเหนียง

เป็นก้อนไขมันที่สะสมอยู่ชั้นผิวหนังบริเวณใต้คาง หรือลำคอส่วนบน  เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ไขมันใต้คาง” หรือ “คางสองชั้น” เกิดจากที่เราทานอาหารที่มีไขมันสูง และไม่ออกกำลังกายทำให้เกิดการสะสมไขมันได้เช่นกัน พอเราก้มลงจะเห็นเป็นคางสองชั้นนั่นเอง

ดูดเหนียง คืออะไร

ดูดเหนียง

การแก้ไขปัญหาไขมันส่วนเกินที่สะสมบริเวณผิวหนังใต้คางและลำคอส่วนบน โดยสามารถทำได้ทั้งการใช้เครื่องดูดไขมัน หรือการดูดไขมันด้วยมือสำหรับคนที่มีเหนียงน้อยมาก ซึ่งการดูดเหนียงแต่ละวิธีนั้นต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย มีผลข้างเคียงน้อยที่สุด

เทคนิคการกำจัดเหนียง ที่ LENISTA

การดูดเหนียง

เป็นวิธีลดเหนียงที่เห็นผลลัพธ์รวดเร็วทันใจที่สุด เพราะเป็นการกำจัดไขมันเหนียงใต้คางได้อย่างตรงจุดและเห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและยาวนาน

เป็นการลดเหนียงฉีดยกกระชับใบหน้า แนวกราม และลำคอ ทำให้กล้ามเนื้อมัดตึงขึ้น และเหนียงยกกระชับมากขึ้น ทำให้กรอบหน้ามีความชัดเจน โดยวิธีนี้เริ่มเห็นผลประมาณ 1-2 สัปดาห์ และเห็นผลอย่างชัดเจนภายใน 1 เดือน หรืออาจนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพของกล้ามเนื้อและการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคน  

การฉีดสลายไขมัน หรือ ฉีดเมโสแฟต เป็นวิธีการฉีดตัวยาเพื่อช่วยลดไขมันที่เหนียงเป็นการสลายไขมันส่วนเกินที่จับตัวกันเป็นก้อน ทำให้ไขมันละลาย กลายเป็นของเหลว และถูกกำจัดออกด้วยระบบการเผาผลาญของร่างกายต่อไป

ขั้นตอนการดูดเหนียง

ฉีดยาชาเฉพาะที่

 

ฉีดยาชา

เปิดแผล 0.5 ซม. 

และทำการดูดไขมัน

ดูดเหนียง

ใช้เวลาประมาณ 30 นาที


ไขมันเหนียงเกิดจากอะไร

ไขมันเหนียง เกิดจากการสะสมของไขมันที่อยู่บริเวณใต้คาง ซึ่งมาจาก พันธุกรรม โครงสร้างใบหน้า กล้ามเนื้อใต้คาง การดูแลตัวเอง ไม่ออกกำลังกาย ไม่ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เรียกได้ว่าเหนียงเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย จนทำให้เกิดเหนียงโดยไม่รู้ตัว และในแต่ละคนก็จะมีขนาดของเหนียงมากน้อย แตกต่างกันไป ที่สำคัญคือไม่ได้จำกัดเฉพาะคนอ้วนเท่านั้น แต่คนผอมก็มีเหนียงได้เช่นกัน 

   ปัญหาของเหนียงเยอะ เหนียงออก

  • ทำให้ใบหน้าดูไม่เรียวยาว สวยได้เต็มที่
  • ใบหน้าดูอ้วนกลม ขาดความมั่นใจ
  • เหนียงเยอะ ทำให้ก้มหน้าได้ไม่สุด
  • ถ่ายรูปหรือเซลฟี่เมื่อไหร่ ต้องคอยหามุมที่ทำให้หน้าดูไม่อ้วน

5 เหตุผลที่ทำให้มีเหนียง รู้แล้วเลิกทำด่วน!

กินอาหารที่มีรสเค็มมากเกินไปส่งผลทำให้มีโอกาสหน้าบวม เพราะเราได้รับโซเดียมในอาหารรสเค็มมากเกินไปทำให้ร่างกายปรับสมดุลโดยกักเก็บน้ำอัตโนมัติ เพื่อขับโซเดียมส่วนเกินออกทางไต หรือยิ่งไปกว่านั้นเราสามารถเกิดอาการบวมน้ำได้ในชั่วข้ามคืม เรียกอาการนี้ว่า “บวมน้ำ ” ทำให้เรารู้สึกบวมทั้งหน้า บวมทั้งตัว ถ้าจะให้ดีควรเลี่ยงอาหารรสเค็ม หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ปรุงให้พอดีไม่เค็มจนเกินไป กินอาหารที่มีรสเค็มมากเกินไปส่งผลทำให้มีโอกาสหน้าบวม เพราะเราได้รับโซเดียมในอาหารรสเค็มมากเกินไปทำให้ร่างกายปรับสมดุลโดยกักเก็บน้ำอัตโนมัติ เพื่อขับโซเดียมส่วนเกินออกทางไต หรือยิ่งไปกว่านั้นเราสามารถเกิดอาการบวมน้ำได้ในชั่วข้ามคืม เรียกอาการนี้ว่า “บวมน้ำ ” ทำให้เรารู้สึกบวมทั้งหน้า บวมทั้งตัว ถ้าจะให้ดีควรเลี่ยงอาหารรสเค็ม หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ปรุงให้พอดีไม่เค็มจนเกินไป ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม (เทียบเท่าเกลือ 1 ช้อนชา หรือน้ำปลา 4-5 ช้อนชา)   

สายของหวานข้อนี้อาจเป็นปัญหาที่ยากสำหรับคนที่ติดกินของหวานมาก เช่น น้ำหวาน ชาไข่มุก หรือสาวๆที่ชอบเที่ยวคาเฟ่ สั่งบิงซู ฮันนี่โทสต์มาทาน อาจจะลดหรือเลิกกินยากกว่าคนทั่วไป การกินหวานในปริมาณที่มากนักอาจไม่ใช่ให้พลังงานแก่ร่างกาย หรือทำให้รู้สึกสดชื่อกระชุ่มกระชวยได้อย่างเดียว แต่มีโทษที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาด เช่น ทำให้อ้วน เป็นโรคเบาหวาน ทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบ ระบบการย่อยอาหารไม่ดี มีกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป ทำให้ฟันผุ  อีกทั้งน้ำตาลในของหวานมีผลเพิ่มปริมาณของไขมันร้าย หรือ ไขมันเลว และไปลดปริมาณของไขมันดีได้ ส่วนใครไม่อยากแก่เร็วน้ำตาลก็มีส่วนที่ทำให้หน้าแก่ก่อนวัยได้เหมือนกัน ถ้าอยากใส่น้ำตาลจริงๆขอนิดหน่อยก็ดี ปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสมที่สาวๆควรกินก็คือไม่เกิน 25 กรัม หรือ 5 ช้อนชาต่อวัน 

สาวๆคนไหนที่หิวและกินตอนดึกฟังทางนี้ ต้องระวังไว้เลยพฤติกรรมการกินแบบนี้เพราะมีส่วนสูงที่จะเกิดไขมันที่เหนียงได้มาก เวลานี้ควรที่จะนอนเพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมและเวลานี้กระเพาะคนเราไม่สามารถเผาผลาญแคลรี่ได้แล้ว อย่างที่บอกร่างกายจะถูกปิดระบบและซ่อมแซมร่างกายที่เราใช้มาทั้งวัน เพื่อกลับไปทำงานอีกครั้งในเวลาเช้าตื่นนอน ถ้าเรายังกินมื้อดึกอาหารเหล่านี้จะสะสมอยู่ตามหน้าตามร่างกายไม่เผาผลาญและสะสมไปเรื่อยๆ ยิ่งคนที่ไม่ออกกำลังยิ่งไม่หายไม่ลดไปแน่นอน เหมือนหยอดกระปุกสะสมไปเรื่อยๆ จนตัวและหน้าเริ่มอ้วนจนเกิดเป็ฯโรคต่างๆในที่สุด เพราะฉะนั้นต้องงดกินมื้อดึกเด็ดขาด ถ้าไม่อยากมีเหนียงเป็นคางสองชั้น  

 

ใครที่ไม่ชอบกินผักสังเกตได้เลยว่าหน้าบวมมีเหนียงเยอะมาก ผักนี่ก็เป็นตัวที่สามารถลดไขมันได้เหมือนกัน เพราะร่างกายเราต้องใช้วิตามินในผักเพื่อช่วยระบบเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายมีการขับถ่ายของเสียได้ดี  ที่สำคัญไปกว่านั้นควรเลือกกินผักที่มีสารเบต้าแคโรทีน และวิตามินเอ พวกผักผลไม้ใบสีเหลืองและสีส้ม เพราะวิตามินและแร่ธาตุ 2 ชนิดนี้จะไปฟื้นฟูสภาพผิวหนังและเซลล์ให้ตึงกระชับ ไม่หย่อยคล้อย และดูอ่อนกว่าวัย 

สายปาร์ตี้ดื่มหนักก็หนีไม่พ้นเหมือนกัน ยิ่งดื่มหนักเหนียงก็มาได้ และไม่ใช่แค่เหนียงตัวก็บวมได้เช่นกันสำหรับคนที่ชอบดื่มเบียร์ ทำไมดื่มแอลกอฮอล์ถึงอ้วนล่ะ เพราะแอลกอฮอล์จะไปลดการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ถ้าระบบเผาผลาญร่างกายได้น้อย ไขมันก็จะสะสมมาก มิหนำซ้ำทำให้ร่างกายขาดน้ำเกิดการกักน้ำไว้ ทำให้เรา “บวมน้ำ” นั้นเอง พอเราเกิดการบวมน้ำทั้งหน้าและตัวก็บวมไปหมด อย่างที่บอกยิ่งเป็นเบียร์ยิ่งหนักไปเลย ถ้าใครงดไม่ได้ ก็แค่ลดก็พอ ดื่มแบบกำลังดีให้มีสติ ไม่ใช่แค่ไม่ให้บวมน้ำ แต่ยังปลอดภัยต่อคนดื่มอีกด้วย 

ข้อควรรู้ก่อนดูดเหนียง

ช่วงอายุที่เหมาะสมในการดูดเหนียง เหมาะกับผู้ที่มีช่วงอายุระหว่าง 20-50 ปี เพราะผิวหนังยังสามารถกระชับได้ อย่างไรก็ตามหากอายุมากกว่านี้ลองปรึกษากับคุณหมอดูก่อนได้ เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมในการกระชับผิวที่หย่อนคล้อยใต้คาง 

1

อาจมีอาการบวมช้ำได้ หลังการดูดไขมันเหนียง จะมีรอยช้ำม่วงตรงบริเวณที่ดูดไขมันออกไปหรืออาจจะหน้าบวมเล็กน้อยขึ้นอยู่แต่ละบุคคล อาการบวมช้ำนี้จะค่อยๆทุเลาลงใน 3-4 วัน และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หลังจากนั้นไม่เกิน 3 สัปดาห์ก็จะหายเป็นปกติ 

2

ในบางกรณีเหนียงอาจกลับมาได้อีก ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของคนไข้ จริงอยู่ที่เป็นวิธีกำจัดเหนียงแบบถาวรและเอาออกได้หมด แต่หากเราไม่ควบคุมพฤติกกรม และไม่รักษาสมดุลร่างกายให้ดี ก็มีสิทธิ์เกิดเหนียงได้อีก  

3

ดูดเหนียง LENISTA ปลอดภัย
ไร้กังวลเรื่องผลข้างเคียง

การดูดไขมันเหนียงถือเป็นศัลยกรรมขนาดเล็กที่ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

ที่ LENISTA แพทย์จะทำการฉีดยาชาเฉพาะจุดก่อนดูดเหนียง เพื่อให้คนไข้ไม่ต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน หลังจากยาชาออกฤทธิ์ก็เปิดแผลเล็ก ๆ ใต้คาง ประมาณ 0.5 เซนติเมตรเท่านั้น

ก่อนจะดูดไขมันที่สะสมออกมากำจัดทิ้งแบบถาวร ก่อนจะเย็บแผลกลับบ้าน และกลับมาตัดไหมในอีก 7 วันเท่านั้น

ดูดไขมันเหนียงเหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีปัญหาเหนียงจำนวนมาก หรือคางสองชั้น
  • ผู้ที่มีคางสั้น แต่มีไขมันสะสมใต้คาง
  • ผู้ที่มีกรอบหน้าไม่ชัด การดูดไขมันใต้คางออกจะทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าดูเรียว ได้รูปมากขึ้น แต่ไม่ต้องการผ่าตัดกระดูกกราม
  • ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก ทำให้มีไขมันสะสมทั้งใบหน้าแก้ม และเหนียงใต้คาง
  • ผู้ที่มีน้ำหนักน้อย แต่มีใบหน้ากลม ต้องการให้มีคางเรียวขึ้น

ดูดไขมันเหนียงไม่เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ
  • ผู้เป็นโรคเบาหวาน
  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • ผู้ที่มีปัญหาการไหลเวียนโลหิตไม่ดี
  • ผู้ที่มีอายุมากและมีผิวหนังหย่อนคล้อย ซึ่งควรใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

การเตรียมตัวก่อนดูดเหนียง

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ทานอาหารก่อนมาคลินิก 3 ชั่วโมง

หลีกเลี่ยงการรับประทานแอสไพรินเป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการตกเลือดได้

งดดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 วัน

ควรใส่เสื้อผ้าสีเข้ม และหลวมๆ

งดรับประทานอาหารเสริม อย่างน้อย 2 สัปดาห์

ดูดเหนียงเจ็บไหม และจะบวมช้ำหรือเปล่า

การดูดเหนียงบริเวณใต้คาง เป็นบริเวณที่ผิวบอบบางมาก อาจมีความรู้สึกอะไรจิ้มๆอยู่แต่ไม่มีอาการเจ็บแน่นอน เพราะแพทย์ทำการฉีดยาชาเฉพาะจุด ทำให้บริเวณที่จะดูดชาจนไม่รู้สึกเจ็บหลังจากดูดไขมันเหนียงโดยทั่วไปจะมีอาการบวมประมาณ 1-2 สัปดาห์ แล้วจะค่อยๆ ลดลง และใบหน้าจะเริ่มเข้าที่ประมาณ 2-4 สัปดาห์

ซึ่งปัจจุบันการดูดเหนียงไขมันเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่สาวๆที่รักความสวยความงาม เพราะการดูดเหนียง จะช่วยให้ไขมันใต้คางหมดไป ไม่เป็นคางสองชั้นช่วยเพิ่มความมั่นใจ และทำให้ใบหน้าดูเรียวยาวได้รูปสวยมากยิ่งขึ้น

การดูดเหนียงมีความปลอดภัยถ้าคนไข้ทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และที่สำคัญการดูดเหนียงยังเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีแค่ทำเพียงครั้งเดียวและอยู่ได้นาน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนไข้

การดูแลตัวเองหลังการดูดเหนียง

งดอาบน้ำในวันที่ดูดไขมัน โดยสามารถอาบน้ำในวันถัดไป และแปะพลาสเตอร์กันน้ำทุกครั้ง

ทำความสะอาดแผล 1-2 ครั้งต่อวัน จนกว่าจะตัดไหม

หลีกเลี่ยงการโดนน้ำ และป้องกันไม่ให้น้ำเข้าแผลอย่างน้อย 7 วันหลังดูดไขมัน

รับประทานยาให้หมด และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ทานอาหารได้ปกติ แต่ควรงดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 เดือน เพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น

หลีกเลี่ยงอาหารไม่สะอาด อาหารทะเล และอาหารหมักดอง

พบแพทย์ทันที หากเกิดความผิดปกติหลังการดูดไขมัน

รายละเอียดการรักษา

1676026042125

ฉีดยาชาเฉพาะจุด

1676024477283

ระยะเวลาดูดไขมันเหนียง 30นาที-1 ชั่วโมง

1676024713895

ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับบ้านได้เลย

1676025801381

ตัดไหม ครบ 7 วัน

1676024748541

ตรวจติดตาม 7วัน 14วัน

1เดือน 3เดือน และ6เดือน

ทำไมต้องดูดเหนียง ที่ LENISTA

  • ทีมแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าโดยเฉพาะ ประสบการณ์ในวงการความงามมากกว่า10ปี 
  • ได้รับความไว้วางใจจากคนไข้ LENISTA และเป็นที่ยอมรับในกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ
  • การบริการเป็นเลิศ Beauty Consultant ติดตามผลหลังศัลยกรรมอย่างใกล้ชิด และพร้อมให้คำแนะนำปรึกษาได้ทุกเมื่อ
  • LENISTA ทุกศัลยกรรม จุดเด่นของเราเน้นในเรื่องของการซ่อนแผล และเทคนิคการเย็บแผลที่ประณีต จะดูกลมกลืน ที่สุด เพราะเราใส่ใจเรื่องความสวยความงามของคนไข้ทุกคน

Q & A (คำถามที่พบบ่อย)

อาการบวมหลัง ดูดไขมันเหนียง ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเพียง 1-2 อาทิตย์ อาการบวมก็ลดลงและใบหน้าเริ่มเข้าที่แล้ว 

จะมีรอยแผลขนาด 0.5 ซม.เท่านั้น และรอยแผลจะค่อยๆจางลงไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับการดูแลแผลของแต่ละคน

ศัลยแพทย์จะทำการฉีดยาชาเพื่อระงับความเจ็บระหว่างทำ จะมีความรู้สึกเจ็บแค่ช่วงฉีดยาชาเล็กน้อย หลังจากที่ยาชาออกฤทธิ์จะไม่รู้สึกเจ็บ 

มีโอกาสการกลับมา ถ้าคนไข้ยังมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ทำให้เกิดสาเหตุของเหนียงอยู่

LENISTA CLINIC

ปรึกษาการทำศัลยกรรมฟรี! พร้อมให้คำแนะนำ

ช่องทางการติดต่อ

ท่านสามารถเลือกช่องทางการติดต่อได้ด้านล่างนี้

* ปรึกษาฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย

  • ฟิลเลอร์
  • โบท็อก
  • เมโสแฟต
  • ปรับหน้าอ่อนเยาว์ด้วยฟิลเลอร์
  • แก้ถุงใต้ตา
  • ไม่ต้องผ่าตัด
  • วิตามินผิว
  • ทรีทเมนต์หน้า

Call Center

เปิดให้บริการ 09:00น. – 24:00น. ทุกวัน

© 2022 lenistaclinic.com สงวนลิขสิทธิ์.