Search
Close this search box.
Search
Detial Box

      การเสริมจมูกเทคนิค SEMI-OPEN คือ การแก้ไขโครงสร้าง
จมูกโดยลงแผลภายในรูจมูกทั้ง 2 ด้าน ทำให้แพทย์เห็นโครงสร้าง
ภายในจมูกได้เกือยบทั้งหมด เป็นการประยุกต์นำเทคนิคการเสริมจมูก
เทคนิค OPEN RECONSTRUCTION มาใช้ ซึ่งไม่เหมือนกับการเสริมจมูกด้วยเทคนิค CLOSE ทั่วไป
          ด้วยเทคนิคที่มีความใกล้เคียงกับการเสริมจมูกแบบ OPEN RECONSTRUCTION จึงทำให้การเสริมจมูกเทคนิค SEMI-OPEN สามารถแก้ไขจมูกใหญ่หรือจมูกชมพู่ให้เล็กลงได้บางส่วน และสามารถทำให้ยืดปลายจมูกให้พุ่งได้อย่างปลอดภัย

เลือกเนื้อหาที่สนใจได้เลย

ปัจจุบันการศัลยกรรมเพื่อส่งเสริมจมูกกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลายคนที่เริ่มต้นทำศัลยกรรม หัตการแรกที่จะเลือกคงหนีไม่พ้นการเสริมจมูก เนื่องจากจมูกเป็นอัยวะที่อยู่กึ่งกลางบนใบหน้าทำให้รูปหน้าดูมีความเปลี่ยนแปลงทันทีหลังเสริมจมูก
         เมื่อความต้องการเสริมจมูกมีมากขึ้น สถานพยาบาลหลายแห่งจึงพยายามพัฒนาเทคนิคของตัวเองเพื่อให้ทรงจมูกดูสวยและเพิ่มมิติให้กับใบหน้า รวมถึงการเสริมจมูกด้วยเทคนิดค SEMI-OPEN ก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ได้รัยความนิยมมากในตอนนี้

การเสริมจมูกด้วยเทคนิค คืออะไร?

ทำไมต้องเสริมจมูก SEMI-OPEN

ได้ทรงจมูกที่สโลปสวย

แก้ไขปัญหาโครงสร้าง ได้ไม่เหมือนการเสิรม จมูกทั่วไป

ไม่มีแผลเป็นภายนอก

ลดโอกาสเสี่ยงทะลุ เบี้ยว เอียง ของซิลิโคน

ใช้เวลาในการผ่าตัด และพักฟื้นไม่นาน

สามารเย็บอินเตอร์โดม เพื่อยกปลายจมูกขึ้นได้

สามารถลดขนาดจมูกให้เล็กลง โดยการตัดเนื้อ ตัดกระดูกอ่อน ส่วนเกินออก

เหมาะกับคนที่มีปัญหา จมูกใหญ่ จมูกชมพู

คนที่เนื้อจมูกน้อยแต่ การปลายจมูกทรงพุ่ง

คนที่เคยเสริมจมูกแล้ว มีปัญหานปลายจมูก บางหรือซิลิโคนทะลุ

การแก้ไขโครงสร้างภายในจมูก

           การเสริมซิลิโคนอบย่างเดียว แบบทั่วๆไปไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับจมูกของคนไทย เพราะคนไทยมักมีปัญหาจมูกใหญ่ จมูกชมพู่ และยังมีปัญหาจมูกเนื้อน้อยอีกด้วย
           การเสริมจมูก SEMI-OPEN แบบแก้ไขโครงสร้างสามารถทำให้จมูกเล็กลงได้ดีขึ้นกว่าเทคนิคอื่นๆ สามารถยืดเนื้อจมูกในกลุ่มคนที่มีเนื้อจมูกน้อย แต่ต้องการปลายพุ่งๆ โดยใช้เนื้อเยื่อพรีเมี่ยม หรือกระดูกอ่อนหลังหูร่วมกับ Dermal Fat Graft ในการรองปลาย ทำให้จมูกดูโด่งมากขึ้น ได้โครงสร้างจมูกและทรงจมูกที่สโลปสวย ปลอยภัย ไม่เสี่ยงทะลุ

การเพิ่มเนื้อปลายจมูก เทคนิคเสริมจมูก SEMI-OPEN

การเสริมจมูก SEMI-OPEN จะใช้เทคนิคการเพิ่มเนื้อปลายจมูกหลักๆอยู่ 2 ชนิด คือ การเพิ่มเนื้อปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อพรีเมี่ยมและกระดูกอ่อนหลังหู สำหรับคนที่ปลายจมูกค่อนข้างบางหรือจมูกเนื้อน้อย แต่อยากยืดปลายจมูกให้สวยโด่งขึ้น การรองเพิ่มเนื้อปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อพรีเมี่ยมหรือกระดูกอ่อนหลังหู จะทำให้ซิลิโคนไม่สัมผัสกับเนื้อจมูกโดยตรงและไม่เสี่ยงทำให้ซิลิโคนทะลุในอนาคน

รายละเอียดการผ่าตัด

1 - 2 ชั่วโมง

เทคนิคบล็อคเส้นประสาทด้วยยาชา

7 วัน ถอดเฝือก และ 14 วันตัดไหม

ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล

ตรวจติดตามเช็คผลหลังการผ่าตัด

พักฟื้น 3 - 7 วัน

เนื้อเยื่อพรีเมี่ยม
MEGADERM PLUS

เป็นเนื้อเยื่อสังเคราะห์ทางการแพทย์ มีลักษณะคล้ายฟองน้ำที่มีรูพรุน ผลิตจากวิธีสังเคราะห์เนื้อเยื่อบนผิวหนังมนุษย์ ผ่านกระบวนการเพื่อกำจัดชั้นผิวหนังกำพร้าออก โดยคงความสมบูรณ์ของโครงสร้างคอลลาเจนไว้เหมือนเดิม ลดการเกิดพังผืด ป้องกันปัญหาทะลุในอนาคตได้ดีกว่าเทคนิคการเสริมจมูกแบบทั่วไป เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อยและบางมากๆ

ข้อดี

  • ใกล้เคียงเนื้อเยื่อคนเรามากกว่าซิลิโคน จึงมีความปลอดภัยสูง
  • ละมุนเป็นธรรมชาติเรียบเนียนไปกับผิวไม่เห็นรอยขอบ
  • ช่วยให้ปลายจมูกหนาและยาวขึ้น
  • ทำให้ซิลิโคนไม่สัมผัสกับเนื้อจมูกโดยตรง
  • ลดความเสี่ยงซิลิโคนทะลุ

ข้อเสีย

  • เนื่องจากเนื้อเยื่อพรีเมี่ยมมีความหนากว่ากระดูกอ่อนหลังหู จึงทำให้ปลายโด่งกว่าในช่วง 1-2 ปีแรก แต่หลังจากนั้นเนื้อเยื่อพรีเมี่ยมจะเริ่มสลายกลายเป็นเนื้อเยื่อตัวเอง ทำให้มีความหนาไม่มากเท่าช่วงแรก

กระดูกอ่อนหลังหูร่วมกับเนื้อเยื่อ Dermal Fat Graft

เป็นการใช้เนื้อเยื่อตัเองในการเสริมปลายจมูกให้โด่งสวยพุ่ง และมีความปลอยภัยมากที่สุด เพราะเป็นเนื้อเยื่อตัวเอง อย่างไรก็ตาม การใช้กระดูกอ่อนหลังหูมักเกิดปัญหาการเห็นขอบของกระดูกอ่อนได้ แต่เทคนิคลับเฉพาะของคุณหมอคริสและที่ LENISTA CLINIC เท่านั้น เราจะใช้เนื้อเยื่อนิ่ม Dermal Fat Graft ร่วมด้วยเสมอ เพื่อแก้จุดด้อย และป้องกันการเห็นขอบกระดูกอ่อนได้ดี เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อย และอาการปลายบางปานกลาง

ข้อดี

  • เข้ากับร่างกายได้ดีในทุกคน เนื่องจากเป็นเนื้อเยื่อของตัวเราเอง
  • ไม่สลาย สามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต
  • เทคนิคเฉพาะ ลดการเห็นขบกระดูกอ่อนได้ด้วย Dermal Fat Graft
  • ช่วยให้ปลายจมูกหนาและยาวขึ้น
  • ลดความเสี่ยงซิลิโคนทะลุ

ข้อเสีย

  • ต้องมีการเปิดแผลที่บริเวณหลังหูด้วย
  • ต้องดูแลแผลบริเวณหลังใบหูด้วย ห้ามโดนน้ำในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
  • ถ้าใช้กระดูกอ่อนหลังหูอย่างเดียวอาจเห็นขอบกระดูกอ่อนได้ แต่ที่ LENISTA ด้วยเทคนิคลับเฉพาะจะมีการใช้เนื้อเยื่อ Dermal Fat Graft ร่วมด้วยเสอ จึงลดการเห็นขอบได้ดี

กระดูกอ่อนหลังหู VS เนื้อเยื่อก้นกบ

กระดูกอ่อนหลังหู มีข้อดีกว่าชัดเจน คือไม่มีการสลายของกระดูกอ่อน ทรงจึงส่วยกว่าในระยะยาวและด้วยเทคนิคเฉพาะของ LENISTA CLINIC เราใช้เนื้อเยื่อ Dermal Fat
Graft ร่วมด้วยเสมอ ทำให้ลดการเห็นขอบกระดูกอ่อนในระยะยาวได้ดี

เนื้อเยื่อก้นกบ เป็นเนื้อเยื่อตัวเองที่มีจุดเด่น คือนิ่ม ไม่เห็นขอบเนื้อแน่นอน แต่ก็ยังมีจุดด้อยที่สำคัญคือ มีอัตราการสลายของเนื้อเยื่อก้นกบสูงมาก ทำให้เมื่อเสริมจมูกไปแล้วระยะหนึ่งปลายจมูกจะตกงุ้มลงจากเนื้อเยื่อก้นกบที่สลายไป

การตอกฐานจมูก

(Osteotomy Rhinoplasty)

การตอกฐานจมูก (Osteotomy Rhinoplasty)

          คือ ทำให้ฐานจมูกทั้ง 2 ข้าง เรียวเล็ก และแคบลง สามารถลดการคดเอียง แก้ไขฐานจมูก 2 ข้างให้ใกล้เคยงกันมากขึ้น ส่วนการตอกฐานแบบตัดกระดูกฮัมพ์ เป็นการตัดกระดูกช่วงกลางจมูกที่นูนเกินออกให้เรียบได้ฐานจมูกที่สวย ในกลุ่มคนที่มีฮัมพ์สูงการตัดกระดูกและออกจากฐานเดิม และจัดเรียงฐานกระดูกใหม่ สามารถบีบฐานจมูกให้แคบเข้ามา หากไม่ทำการตอกฐานก่อนเสริมจมูก จะทำให้ซิลิโคนเอียงหรือลอยได้ เพราะซิลิโคนที่เสริมเข้าไปจะไม่สามารถแนบไปกับฐานจมูกในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูกได้

จมูกแบบไหนที่เหมาะกับการตอกฐานจมูก

จมูกมีฮัมพ์สูง งองุ้ม

หากไม่ทำการตอกฐานก่อนเสริมจมูก จะทำให้ซิลิโคนเอียงหรือลอยได้ เพราะซิลิโคนที่เสริมเข้าไปจะไม่สามารถแนบไปกับฐานจมูกในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูกได้

ฐานจมูกคด เบี้ยว เอียง และฐาน 2 ข้างไม่เท่ากัน

      คนที่มีฐานจมูกคด เบี้ยว เอียงเทคนิคการเสริมจมูก SEMI-OPEN อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ แนะนำให้แก้ไขจมูกด้วยเทคนิคการเสริมจมูกแบบ OPEN RECONSTRUCTION จะสามารถแก้ไขโครงสร้างจมูกได้ทั้งหมด

ฐานจมูกกว้างและใหญ่

เหมาะกับคนที่มีฐานจมูกกว้างและใหญ่ เกินกว่าหัวตาทั้ง 2 ข้าง เพราะเวลามองหน้าตรงจะรู้สึกเหมือนไม่มีสันจมูก เนื่องจากมีฐานจมูกที่ใหญ่

การตอกฐานจมูกมีแบบไหนบ้าง ?

แนวใกล้กึ่งกลางจมูก

(Medial) Osteotomy

แนวเส้นขอบนอกกระดูก

(Lateral Osteotomy)

แนวด้านข้างจมูก

(Intermedial Osteotomy)

แนวด้านบนของจมูก

(TRANSVERSE Osteotomy)

การตัดกระดูกฮัมพ์

(Homepectomy)

การตอกฐานจมูก

เรื่องน่ารู้

การตอกฐานจมูก มีทั้งแบบลงแผลด้านในจมูก และแบบแผลด้านนอกจมูก (แผลอยู่ด้านข้างจมูก มีขนาดเล็กเพียง 2-3 มม.)

แพทย์ที่เชี่ยวชาญจะสามารถเลือกประเภทของการตอกฐานจมูกให้เข้ากับลักษณะของคนไข้ได้อย่างเหมาะสม (แต่ละคนใช้วิธีการตอกฐานไม่เหมือนกัน)

Best Choice

การตอกฐานจมูก มีทั้งแบบลงแผลด้านในจมูก
และแบบแผลด้านนอกจมูก (แผลอยู่ด้านข้างจมูก
มีขนาดเล็กเพียง 2-3 มม.)

การตอกจมูก

การตัดกระดูกฮัมพ์ ≠ การตะไบจมูก

การตะไบจมูก
         เป็นการปรับกระดูกจมูกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เปรียบเสมือนการตะไบเล็บ ไม่ได้ทำให้โครงสร้างจมูกดีขึ้น มักเป็นการโฆษณาเกินจริงต่างจากการตอกฐาน หรือตัดกระดูกฮัมพ์ ที่มีการตัดแต่งจัดเรียงกระดูกใหม่ ทำให้โครงสร้างจมูกดีขึ้น เสริมจมูกออกมาแล้วได้ทรงที่สวยกว่า

                                    การตะไบฮัมพ์                          การตอดฐาน หรือ การตัดกระดูกฮัมพ์

การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก SEMI-OPEN

งดวิตามินและอาหารเสริม บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนการผ่าตัด 7-14 วัน

งดวิตามินและอาหารเสริม บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนการผ่าตัด 7-14 วัน

งดวิตามินและอาหารเสริม บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนการผ่าตัด 7-14 วัน

งดวิตามินและอาหารเสริม บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนการผ่าตัด 7-14 วัน

งดวิตามินและอาหารเสริม บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนการผ่าตัด 7-14 วัน

งดวิตามินและอาหารเสริม บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนการผ่าตัด 7-14 วัน

งดวิตามินและอาหารเสริม บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนการผ่าตัด 7-14 วัน

การดูแลตัวเองหลัง
เสริมจมูก OPEN ไร้ซิลิโคน

หลังจากเสริมจมูกไปแล้ว การดูแลตัวเองหลังจากเสริมจมูกก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้แผลยุบบวมดีและหายได้เร็วขึ้น บางเคสหลังเสริมจมูกแล้วทรงสวยมาก แต่พอกลับไปบ้านอาการบวมช้ำก็เริ่มเยอะขึ้น เนื่องจากไม่ได้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ เรามาดูกันว่าเสริมจมูกไปแล้วควรดูแลตัวเองยังไงตามที่ทีมแพทย์ LENISTA CLINIC แนะนำกัน

1. ทำควาสะอาดแผล

ทำความสะอาดแผลวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน โดยเช็ดด้วยน้ำเกลือเบาๆ พยายามเช็ดคราบเลือดที่เกาะออกให้สะอาด จนเห็นปมไหมชัดเจน จากนั้นป้ายขี้ผึ้งฆ่าเชื้อ บางๆ อย่าหนาจนเกินไป

2.ประคบเย็น

ให้ประคบเย็นใน 3 วันแรก (72ชม.หลังทำเสร็จ) โดยประคบบ่อยเท่าที่ทำได้ อาจจะประคบ 20 นาที แล้วพัก 20 นาที ประคบที่บริเวณแก้ม 2 ข้าง หน้าผาก ไม่ประคบที่จมูกโดยตรงเพราะอาจทำให้เกิดการเบี้ยวเอียงได้

3. หนุนศีรษะด้วยหมอนสูง

นอนหัวสูงในช่วง 3 วันแรก เพื่อลดอาการเลือดไหลซึมและลดอาการบวม ลดภาวะเลือดคั่งได้

4. ห้ามแผลโดนน้ำ

ห้ามน้ำเข้าแผลเด็ดขาด ส่วนใบหน้าให้ทำความสะอาดด้วยการเช็ดหน้าแทนการล้างหน้า 14 วัน

5. อาการหายใจติดขัด

การหายใจจะติดขัดได้บ้างในช่วง 2-3 อาทิตย์แรก โดยเฉพาะใน 3วันแรกไม่ต้องตกใจ เนื่องจากด้านในมีการแก้ไขโครงสร้างผนังกั้นจมูก จึงมีการบวมในรูจมูกทำให้หายใจไม่สะดวก (ต่างกับเทคนิคปิดหรือ semi open ที่ไม่ได้ทำผนังกั้นจมูก ด้านใจรูจมูกจึงไม่บวมจึงมักไม่มีผลต่อการหายใจ)

6. ทานยาตามที่แพทย์สั่ง

ทานยาที่ได้รับตามฉลากยาที่ทางคลินิกจัดให้ ยาฆ่าเชื้อ/ยาแก้อักเสบให้ทานจนหมด ยาลดบวม ยาแก้ปวด

7. งดแอลกอฮอลล์และบุหรี่

งดดื่มเหล้า งดสูบบุหรี่,บุหรี่ไฟฟ้า หลังทำอย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ (นม น้ำอัดลม กาแฟ สามารถทานได้)

8. หลีกเลี่ยงการทานอาหารบางชนิด

ควรหลีกเลี่ยงอาหารไม่สุก ไม่สะอาด เช่นของหมักดอง 3-4 สัปดาห์ (ผลไม้ทานได้ปกติทุกชนิด)

9. ประคบอุ่น

หลังทำ 4-5 วัน ถ้ายังรู้สึกว่ายังบวมหรือมีอาการเขียวช้ำ สามารถประคบอุ่นได้ แต่ต้องไม่ร้อนเกินจนทำให้ผิวหนังพุพอง แค่อุ่นๆก็เพียงพอ การประคบอุ่นจะช่วยให้การเขียวช้ำจางลงได้ไวขึ้น

LENISTA CLINIC

ปรึกษาการทำศัลยกรรมฟรี! พร้อมให้คำแนะนำ

ช่องทางการติดต่อ

ท่านสามารถเลือกช่องทางการติดต่อได้ด้านล่างนี้

* ปรึกษาฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย

  • ฟิลเลอร์
  • โบท็อก
  • เมโสแฟต
  • ปรับหน้าอ่อนเยาว์ด้วยฟิลเลอร์
  • แก้ถุงใต้ตา
  • ไม่ต้องผ่าตัด
  • วิตามินผิว
  • ทรีทเมนต์หน้า

Call Center

เปิดให้บริการ 09:00น. – 24:00น. ทุกวัน

© 2022 lenistaclinic.com สงวนลิขสิทธิ์.