Search
Close this search box.
Search

ถุงใต้ตาเกิดจากอะไร ? แก้ปัญหาถุงใต้ตา ไม่ต้องผ่าตัด

ถุงใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูโทรม อ่อนล้า และดูมีอายุ ปัญหาถุงใต้ตาเกิดจากหลายสาเหตุ สามารถเกิดได้กับทุกคนไม่ว่าจะอายุมากหรืออายุน้อย โดยถุงใต้ตาจะมีลักษณะเป็นถุงไขมันนูนออกมาและหย่อนคล้อยบริเวณใต้ตา ทำให้หลายๆคนกังวลและไม่มั่นใจ ซึ่งในกลุ่มคนที่เป็นภูมิแพ้ อาจจะมีรอยคล้ำใต้ตาที่เกิดจากเส้นเลือดใต้ผิวหนังขยายตัวขึ้น ทำให้บางครั้งหลายๆคนเข้าใจผิดว่าเป็นถุงใต้ตาได้เช่นเดียวกัน

ถุงใต้ตา เกิดจากอะไร ?

1. กรรมพันธุ์

ถุงใต้ตาที่เกิดจากกรรมพันธุ์เป็นถุงใต้ตาแท้ เกิดจากการทำงานผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ สามารถถ่ายทอดได้ทางพันธุกรรม เกิดจากการที่ไขมันมารวมกันอยู่ที่บริเวณใต้ตามากเกินไป

2. อายุมากขึ้น

เมื่ออายุมากขึ้นผิวหนังก็เสื่อมสภาพ ส่งผลให้ชั้นไขมันที่ช่วยพยุงผิวหนังและคอลลาเจนลดน้อยลง ไขมันใต้ตาจึงเคลื่อนลงมา ทำให้ถุงใต้ตาหย่อนคล้อย

3. พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน

พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆที่ทำให้เกิดถุงใต้ตาเทียม เช่น การขยี้ตา พักผ่อนน้อย ดื่มน้ำไม่เพียงพอ ใช้สายตามากเกินไป และการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานผิดปกติ ทำให้ไขมันใต้ตานูนบวมออกมา

5 วิธีลดถุงใต้ตา
ด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ

ล้างแตงกวาให้สะอาด นำมาแช่เย็น และหั่นเป็นแว่นๆจากนั้นนำมาแปะที่ดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 20-25 นาที ฤทธิ์เย็นของแตงกวาจะช่วยลดการอักเสบ ลดการบวม ช่วยให้ดวงตายังสดใสเป็นประกายด้วย

นำนมจืดแช่เย็น ชุบด้วยสำลีแผ่นกลม แปะบริเวณรอบดวงตาประมาณ 20 นาที วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาตาบวม พร้อมบำรุงผิวรอบดวงตาให้นุ่มชุ่มชื้นอีกด้วย

ใช้เกลือครึ่งช้อนโต๊ะผสมละลายกับน้ำอุ่น ชุบด้วยสำลีแผ่นกลม แปะบริเวณรอบดวงตาทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น จะช่วยลดการบวมและอักเสบ พร้อมฟื้นฟูระบบการไหลเวียนของเส้นเลือดฝอยรอบดวงตาได้ด้วย

นำไข่ขาวทาบริเวณใต้ตาที่บวม ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จนกว่าไข่ขาวจะแห้งตึง วิธีนี้จะช่วยให้ผิวบริเวณรอบดวงตากระชับขึ้น และทำให้ถุงใต้ตายุบลงได้อย่างรวดเร็วทันใจ

นำถุงชาไปแช่เย็น และนำถุงชามาจุ่มในน้ำเย็นอีกครั้ง แปะบริเวณรอบดวงตาทิ้งไว้ประมาณ 20-25 นาที ช่วยเรื่องการไหลเวียนของเส้นเลือดฝอยบริเวณรอบดวงตา และ ช่วยลดบวมได้

ลดถุงใต้ตาด้วยฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยทดแทนเนื้อเยื่อและคอลลาเจนใต้ตาที่สลายไป เป็นหัตถการที่สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างตรงจุด ทำให้ร่องลึกใต้ตาดูตื้นขึ้น เติมเต็มผิวหนังที่ยุบตัวให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง นอกจากจะช่วยเติมเต็มใต้ตาได้แล้ว ฟิลเลอร์ยังสามารถแก้ปัญหาเรื่องถุงใต้ตาได้อีกด้วย ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเห็นผลทันทีหลังฉีด ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาพักฟื้น

บทความแนะนำ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ?

JUVEDERM Voluma

ผลิตด้วยเทคโนโลยี VYCROSS เนื้อมีลักษณะแข็งและฟู มีความยืดหยุ่นสูง ยกกระชับได้ดี เหมาะกับฉีดบริเวณแนวกระดูกเบ้าตา
เพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตาลึกและถุงใต้ตา

JUVEDERM Voluma

ผลิตด้วยเทคโนโลยี VYCROSS เนื้อมีลักษณะแข็งและฟู มีความยืดหยุ่นสูง ยกกระชับได้ดี เหมาะกับฉีดบริเวณแนวกระดูกเบ้าตา
เพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตาลึกและถุงใต้ตา

JUVEDERM Volbella

เนื้อฟิลเลอร์มีโมเลกุลขนาดเล็ก เนื้อละเอียด มีความนิ่มที่สุด ให้ความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดบริเวณผิวหนังบางๆ เช่น ใต้ตา หรือริ้วรอยบางๆ

JUVEDERM Volbella

เนื้อฟิลเลอร์มีโมเลกุลขนาดเล็ก เนื้อละเอียด มีความนิ่มที่สุด ให้ความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดบริเวณผิวหนังบางๆ เช่น ใต้ตา หรือริ้วรอยบางๆ

Restylane Vital Light

เนื้อฟิลเลอร์ละเอียด นุ่ม อุ้มน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี เหมาะกับการแก้ไขปัญหาริ้วรอยเล็กๆรอบดวงตา  รอยคล้ำใต้ตา เพิ่มความชุ่มชื้นเป็นหลัก

Restylane Vital Light

เนื้อฟิลเลอร์ละเอียด นุ่ม อุ้มน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี เหมาะกับการแก้ไขปัญหาริ้วรอยเล็กๆรอบดวงตา  รอยคล้ำใต้ตา เพิ่มความชุ่มชื้นเป็นหลัก

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

เมโสแฟต

อาจมีอาการบวมในจุดที่ฉีดเป็นปกติ หลีกเลี่ยงการบีบ นวด แกะ เกา บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

อยู่แต่ในที่อากาศเย็น
หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด

งดเลเซอร์อย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ

เมโสแฟต
ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้ว
เป็นก้อนเกิดจากอะไร ?

ฟิลเลอร์ถูกผลิตออกมาหลายรุ่นหลายยี่ห้อ เพราะผิวหน้าของคนเรานั้นมีหลายชั้น และความหนาบางของผิวในแต่ละตำแหน่งแตกต่างกัน ดังนั้น ถ้าใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็งและเหนียวค่อนข้างมาก นำมาใช้ฉีดบริเวณใต้ตา ฟิลเลอร์จึงจับตัวเป็นก้อนแข็งใต้ตาได้

ใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือฟิลเลอร์ปลอม ที่ไม่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อฉีดไปเป็นเวลานานๆ ฟิลเลอร์จะจับตัวกันเป็นก้อน ไหลย้อยไม่เป็นทรง ไม่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และไม่สามารถฉีดสลายได้จะต้องทำการขูดออกหรือศัลยกรรมผ่าตัดออกเท่านั้น

การฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละบริเวณจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ไม่เท่ากัน การฉีดฟิลเลอร์ใตต้าควรใช้เพียง 1-2 cc การใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากเกินไป อาจเป็นสาเหตุให้ฟิลเลอร์จับตัวกันเป็นก้อนได้

โดยแพทย์ที่จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับสรีระบนใบหน้าเกี่ยวกับชั้นผิว ไขมัน กล้ามเนื้อ และรูปกระดูกเป็นอย่างดี หากฉีดกับแพทย์ที่ขาดความรู้และประสบการณ์อาจมีความเสี่ยงฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวมได้

LENISTA CLINIC

ปรึกษาการทำศัลยกรรมฟรี! พร้อมให้คำแนะนำ

ช่องทางการติดต่อ

ท่านสามารถเลือกช่องทางการติดต่อได้ด้านล่างนี้

* ปรึกษาฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย

  • ฟิลเลอร์
  • โบท็อก
  • เมโสแฟต
  • ปรับหน้าอ่อนเยาว์ด้วยฟิลเลอร์
  • แก้ถุงใต้ตา
  • ไม่ต้องผ่าตัด
  • วิตามินผิว
  • ทรีทเมนต์หน้า

Call Center

เปิดให้บริการ 09:00น. – 24:00น. ทุกวัน

© 2022 lenistaclinic.com สงวนลิขสิทธิ์.